บางครั้งชีวิตก็ทำให้เราหลงทางไปบ้าง ลองแวะคาเฟ่ข้างทางเพื่อเยียวยาหัวใจ เรื่องราวเกี่ยวกับจอห์นผู้เหน็ดเหนื่อยจากงาน จึงขอลาพักร้อนเพื่อไปชาร์จแบต แต่ระหว่างเดินทางก็มีเหตุที่ทำให้หลงทางจนไปพบกับคาเฟ่แห่งหนึ่งที่ทำให้เขาตั้งคำถามและหาคำตอบของชีวิต หนังสือเล่มนี้สร้างแรงบันดาลใจเละให้ข้อคิดกับผู้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นการมุ่งสู่เป้าหมายของการมีชีวิตหรือทำให้ฉุกคิดว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เราอยากมีชีวิตอยู่ ความสุขจริงๆของเราคืออะไร หากใครกำลังสับสนหรือหลงทางกับชีวิตอยากให้มาแวะอ่านเล่มนี้กันค่ะ ในเล่มยังมีแง่คิดมากมายที่แฝงอยู่ และนี่คือส่วนหนึ่งของประโยคในหนังสือเล่มนี้ที่เราประทับใจค่ะ "การถามคำถามนั้นก่อให้เกิดแรงผลักดันเพื่อค้นหาคำตอบ"ในขณะที่จอห์นกำลังจะสั่งอาหาร ก็ได้เจอกับคำถามสามข้อบนปกเมนู นั่นคือ เหตุใดคุณจึงมาที่นี่ คุณกลัวตายไหม คุณพึงพอใจกับชีวิตหรือยัง ทำให้ตัวเขาเกิดความสงสัยขึ้นมา ซึ่งการตั้งคำถามนั้นคือก้าวแรก คุณไม่อาจดำเนินก้าวแรกแล้วหลังจากนั้นก็รออยู่เฉยๆได้ พอเราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เกิดการตั้งคำถามว่าเหตุผลในการมีชีวิตอยู่ของตัวเองคืออะไร สุดท้ายเราก็จะค้นหาคำตอบตลอดเวลาอย่างไม่รู้ตัว จนกว่าเราจะรู้คำตอบ และมันสร้างแรงผลักดันใหม่ๆให้กับชีวิต เราได้ลองทำสิ่งใหม่ สนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น ค้นพบความหลงไหลของตัวเองจากที่เมื่อก่อนไม่เคยได้สังเกต สิ่งต่างๆจะผุดขึ้นมาอย่างไม่เคยคาดคิดมาก่อน "แล้วคุณจะแปลกใจ บางครั้งคุณแค่ไม่รู้ว่าตัวเองพร้อมแค่ไหนสำหรับสิ่งที่จะเติมลงไป"ประโยคนี้สะดุดใจมากค่ะ หลายครั้งที่ได้ทำสิ่งที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้ตัวเองจะทำได้ แต่กลับทำได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก แล้วก็ทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เราสนุกที่จะค้นหาและเรียนรู้สิ่งต่างๆไปเรื่อยๆ หากคุณไม่มั่นใจในตัวเอง หรือยังไม่กล้าทำสิ่งใหม่ อยากให้ลองเริ่มต้นดูค่ะ คุณอาจจะพบว่าตัวเองเป็นอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด และถ้าสุดท้ายสิ่งนั้นจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ อย่างน้อยคุณก็จะไม่ได้ค้างคาใจที่ไม่ได้ทำ แถมยังได้รับประสบการณ์และได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นอีกด้วย จะมีอะไรดีไปกว่านี้ ลุยกันเลยค่ะ "จากประสบการณ์ของคุณ การทำสิ่งที่ 'คนส่วนใหญ่' ทำกัน ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายของการมีชีวิตได้หรือเปล่า"ชีวิตเราบางครั้งมักเผลอทำตามสังคมส่วนใหญ่ บางสิ่งเราอาจไม่ได้สนใจมากมาย แต่คนอื่นมองว่าดีเราก็ว่าดีตาม หลายคนยังโดนแรงกดดันจากคนรอบตัว แค่เพราะตัวเองไม่ได้เป็นไปตามแบบแผนของสังคม เราเองก็เป็นหนึ่งในคนส่วนใหญ่ที่ยังหาคำตอบไม่ได้เลยว่า ทุกวันนี้เราได้ใช้ชีวิตตามเป้าหมายของตัวเองไหม สุดท้ายก็จบที่ความรู้สึกเคว้งคว้าง เพราะไม่รู้ว่าเป้าหมายชีวิตของเราคืออะไรกันแน่ สำหรับบางคนกว่าจะรู้ตัวก็ใช้เวลาชีวิตไปมากมาย แล้วคุณล่ะ ได้ค้นพบเป้าหมายของการมีชีวิตหรือยัง การใช้ชีวิตเหมือนคนส่วนใหญ่ทำให้คุณบรรลุเป้าหมายของการมีชีวิตได้หรือไม่ และหนังสือยังบอกไว้ว่า การตระหนักว่าบางสิ่งบางอย่างน่าพึงพอใจ เพราะเราตัดสินว่ามันน่าพึงพอใจด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่เพราะคนอื่นมาบอก เพราะในชีวิตจริงก็มีเพียงแต่คุณเท่านั้นที่รู้ว่า ต้องการอะไรจากการมีชีวิตอยู่ เรื่องราวที่ทัชใจและชอบที่สุด คือ เรื่องของเต่าตนุ ที่ใช้ชีวิตไหลไปตามธรรมชาติ ซึ่งเต่าตนุจะว่ายน้ำโดยใช้ประโยชน์จากคลื่นที่พัดออกจากฝั่ง มันจะเก็บพลังงานไว้ใช้ว่ายน้ำตอนที่คลื่นพัดออกจากฝั่ง เพราะคลื่นทำให้ว่ายได้เร็วและไกลขึ้น แต่หากคลื่นซัดเข้าฝั่งมันก็จะลอยตัว ตีขาเพื่อประคองตัวไว้เฉยๆ เพื่อรอจังหวะที่คลื่นพัดออกจากฝั่ง โดยไม่ว่ายน้ำต้านคลื่นจากเรื่องเต่าตนุนี้หนังสือก็ให้แนวคิดไว้ว่า ถ้าคุณไม่เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่ตัวเองทำ คุณจะสูญเสียพลังงานไปกับสิ่งอื่นมากมาย พอถึงวันที่มีโอกาสได้ทำสิ่งที่อยากจะทำ คุณก็อาจไม่เหลือกำลังหรือเวลาให้สิ่งนั้นแล้ว โดยสรุปแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาความหมายของการมีชีวิต ถึงแม้ตอนนี้เราบางคนอาจจะยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แค่ในปัจจุบันได้ทำสิ่งที่เราอยากทำและสิ่งนั้นก็ทำให้เรามีความสุข แล้วซักวันเราอาจได้พบเหตุผลของการมีชีวิตอยู่ :) ภาพปก โดย ผู้เขียนภาพที่ 1 ภาพที่ 2 และ ภาพที่ 4 โดย ผู้เขียนภาพที่ 3 โดย bphelan จาก pixabay เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !