ทัวร์ลงท่านนายกฯนักรัก พูดโยงผู้หญิงปากีฯแต่งตัวยั่ว คดีข่มขืนพุ่ง
ทัวร์ลงท่านนายกฯนักรัก - เอพี รายงานว่า นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรี ถูกกลุ่มสิทธิสตรีและสิทธิมนุษยชนรุมจวกอย่างหนัก หลังพูดจาพาดพิงการแต่งกายของผู้หญิงว่าทำให้คดีข่มขืนในประเทศพุ่งสูงขึ้น
อดีตนักคริกเก็ตและเพลย์บอยให้สัมภาษณ์ในช่วงถาม-ตอบกับประชาชนทางออนไลน์ ทางราบการ “Prime Minister On Call With You” มีผู้ถามว่ารัฐบาลดำเนินการอย่างไรบ้างต่อปัญหาความุรนแรงทางเพศที่มีเด็กเป็นเหยื่อด้วย นายกฯ ข่าน กลับตอบด้วยการยกย่องประเพณีการคลุมหน้าสตรีอิสลาม หรือ เพอดะห์ ว่าเป็นวิธีการลดความยั่วยวน
FILE PHOTO: Pakistan's Prime Minister Imran Khan speaks during a joint news conference with Malaysia's Prime Minister Mahathir Mohamad (not pictured) in Putrajaya, Malaysia, February 4, 2020. REUTERS/Lim Huey Teng/File Photo
นายข่านอ้างอิงประวัติศาสตร์โลกว่า เมื่อใดที่สังคมเสื่อมลง สองสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ อาชญากรรมทางเพศและครอบครัวล่มสลายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น แนวคิดเพอร์ดะห์จึงเป็นวิธีการลดความยั่วยวนใจ แต่ไม่ใช่ทุกคนมีจิตใจแน่วแน่ที่จะทำตาม
นายกฯ ที่เคยเป็นนักกีฬาดาวดัง กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ทำให้สังคมทั่วโลกเสื่อมทรามว่าเกิดจากหลายปัจจัย ในที่นี้รวมถึงวงการบันเทิงบอลลีวูดของอินเดีย ชาติคู่อริของปากีสถาน ทั้งโจมตีว่าอินเดียกลายเป็น “เมืองหลวงของการข่มขืนโลก” เพราะภาพยนตร์บอลลีวูดมีแต่ฉากอนาจาร นอกจากนี้ยังกล่าวโทษค่านิยม “เซ็กซ์ ยาเสพติดและร็อกแอนด์โรล” ของอังกฤษ ในยุค 70
กลุ่มสตรีปากีสถาน (FILES) In this file photo taken on March 8, 2021 activists of the 'Aurat March' shout slogans and carry placards during a rally to mark International Women's Day in Islamabad. - (Photo by Aamir QURESHI / AFP)
ข่านกล่าวว่าการข่มขืนเพิ่มขึนในสังคมปากีสถานอย่างรวดเร็วเหมือนมะเร็ง หนทางที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก คือ การอนุรักษ์แนวคิดการถ่อมตัวแบบอิสลาม ส่วนรัฐบาลปากีสถานจะออกกฎหมายคุ้มครองผู้หญิงที่ถูกทำร้ายซึ่งคนในสังคมต้องให้ความร่วมมือด้วย
หลังจบรายการปรากฏว่า ทัวร์ลงท่านนายกฯนักรัก ของปากีสถานอย่างหนักทันที บรรดาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหลายร้อยคนร่วมลงชื่อคัดค้านความเห็นของข่านเรื่องการข่มขืน เช่นเดียวกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรี ที่ต่างเห็นว่า “ผิดไปจากความจริง ขาดไหวพริบและเป็นอันตราย”
จากข้อเท็จจริงที่มีการเก็บข้อมูลเรื่องนี้ขององค์กรการกุศล ซาฮิล ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 มีเด็กๆ เกือบ 1,500 รายถูกทำร้ายทางเพศ ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการแต่งกาย
จีโอนิวส์รายงานว่า ปากีสถานสถิติผู้หญิงถูกข่มขืนอย่างน้อย 11 คดีต่อวัน ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา มีคดีข่มขืน 22,000 คดี แต่มีคนที่ศาลตัดสินว่ามีความผิดเพียง 77 คนหรือคิดเป็นร้อยละ 0.3 เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราต่ำที่สุดในโลก
นอกจากนี้ยังมีคดีที่ผู้ชายอ้าง “เกียรติยศ” ผู้หญิงที่ทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงอาจจะถูกกระทำรุนแรงหรือฆาตกรรมทำให้ปากีสถานตกไปอยู่ในกลุ่มรั้งท้ายจากการจัดอันดับความเท่าเทียมกันทางเพศของโลก
คดีช็อกของปากีสถานที่เด็กหญิงตกเป็นเหยื่อ
“เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่งที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจว่าผู้หญิงในสังคมนี้อยู่อย่างไม่ปลอดภัยและไม่มั่ยคง มันเป็นความล้มเหลวทางระบบกฎหมาย เช่นเดียวกับวัฒนธรรมการพ้นผิด ที่ทำให้ผู้หญิงอยู่อย่างไม่มั่นคง" นายไซฮิด ฮุสเซน นักวิเคราะห์การเมือง กล่าว
ด้าน เดลีเมล์ รายงานย้อนเส้นทางรักของนายข่าน เพื่อโจมตีว่า กล้ากล่าวโทษว่าสถิติข่มขืนที่พุ่งสูงขึ้นมาจากผู้หญิงแต่งตัวยั่วยวน ทั้งที่นายข่านเป็นนักรักที่พัวพันกับผู้หญิงหลายคน
สมัยหนุ่มๆ ข่านได้ชื่อว่าเป็นเพลย์บอย สาวๆ ที่ควงด้วยก็แต่งกายเซ็กซี่
นายข่านหย่าร้างมาแล้ว 2 ครั้งและมักควงสาวๆ ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยเข้าไนต์คลับระดับวีไอพีในช่วงที่ใช้ชีวิตวัยหนุ่มในกรุงลอนดอนของอังกฤษ
หนุ่มเพลย์บอย เคยคบหากับซูซานนาห์ คอนสแตนติน แฟชั่นกูรู ก่อนที่จะแต่งงานกับเจมิมา โกลด์สมิธ นักเขียนบทภาพยนตร์ชาวอังกฤษในปี 2538 และมีบุตรด้วยกัน 2 คน ก่อนหย่ากันในอีก 9 ปีต่อมา
ควงเซเลบและดาราสาว
ส่วนชีวิตคู่ครั้งที่ 2 ของข่านจบลงหลังจากแต่งงานในปี 2558 ได้เพียง 9 เดือน หลังจากมีกระแสข่าวสะพัดว่าข่านคบซ้อนกับ รีแฮม ข่าน อดีตผู้ประกาศข่าวบีบีซี รีแฮมถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังจากไปร่วมงานของพรรคพีทีไอของข่านเพราะถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีว่านักข่าวสาวต้องการสร้างโปรไฟล์ตัวเองด้วยการเกาะกระแสความดังของสามี
ข่านเคยผ่านการหย่าร้าง 2 ครั้ง
สำหรับภรรยาคนปัจจุบัน คือ บุชรา วัตตู เข้าพิธีแต่งงานแบบอนุรักษ์นิยมในปากีสถานเมื่อปี 2561 โดยในวันวิวาห์ เจ้าสาวมีผ้าคลุมศีรษะสีแดงปกปิดใบหน้าเกือบหมดตามแบบนิกายอิสลาม ออร์โธด็อกซ์
ภรรยาคนปัจจุบัน แต่งงานแบบอนุรักษนิยม เจ้าสาวคลุมหน้ามิดชิด
ปีที่แล้ว ข่านเพิ่มถูกคนในสังคมตำหนิอย่างกว้างขวาง หลังจากออกโทรทัศน์และกล่าวหาว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาเกิดจากการที่ผู้หญิงกระทำผิด