รีเซต

สันติ พร้อมพัฒน์ เกาะติดน้ำท่วมเพชรบูรณ์ ระดมช่วยเหลือ 11 ตำบล

สันติ พร้อมพัฒน์ เกาะติดน้ำท่วมเพชรบูรณ์ ระดมช่วยเหลือ 11 ตำบล
ข่าวสด
16 กันยายน 2564 ( 09:12 )
78

นายกรัฐมนตรี มอบหมาย รมช.สันติ พร้อมพัฒน์ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ หลังฝนตกต่อเนื่อง พร้อมนำสารและถุงยังชีพจาก นายกฯ ส่งความห่วงใย มอบกำลังใจให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงาน ร่วมแก้ปัญหาน้ำเอ่อล้นท่วม กว่า 2,000 ครัวเรือน ใน 11 ตำบล อำเภอหล่มสัก และเขตเทศบาล กำชับหน่วยงานท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือจัดทำแผนเร่งระบายน้ำ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

 

 

 

 

วันที่ 14 ก.ย. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบรูณ์ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของจำเป็น จำนวน 1,000 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน หลังจากเกิดภาวะน้ำท่วมขัง ในหลายพื้นที่ของอำเภอ จากปริมาณฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 9 -11 กันยายน ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้บ้านเรือนได้รับผลกระทบจำนวนมาก

 

 

 

 

ส่วนใหญ่เป็นชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำป่าสัก เป็นผลทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นในพื้นที่วงกว้าง การสัญจรของประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก มีผลต่อการประกอบอาชีพ ซึ่งรัฐบาลจะเร่งดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนแก้ไขปัญหาเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

 

 

 

 

นายสันติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ครั้งนี้ โดยนำสารจากท่านนายกรัฐมนตรี เพื่อส่งต่อขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในช่วงที่วิกฤตมามอบให้กับประชาชน

 

 

 

รวมถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนและอาสาสมัครในการปฎิบัติหน้าที่ในการดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งรัฐบาลพร้อมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยการเสนอผ่านหน่วยงานระดับจังหวัด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่

 

 

ทั้งนี้จากการได้รับรายงานสถานการณ์อุทุกภัยในพื้นที่อำเภอหล่มสัก พบว่ามีประชาชนกว่า 2,000 ครัวเรือน จาก 11 ตำบล 62 หมู่บ้าน รวมเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก 11 ชุมชน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่โดยรวมได้เริ่มลดระดับ เนื่องจากทางจังหวัดได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งอัตราการไหลของน้ำให้เร็วน้ำ เพื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ประสบภัยให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้มีแผนการดำเนินโครงการที่เกี่ยวข้องในการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งในอนาคต เพื่อเป็นการสร้างทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง