รัฐแคลิฟอร์เนียแซงญี่ปุ่น ขึ้นเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก

เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ แถลงว่า รัฐแคลิฟอร์เนียได้ก้าวขึ้นเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ จีน และเยอรมนี เบียดแซงญี่ปุ่นตกไปอยู่อันดับ 5 โดยนิวซัมอ้างข้อมูลใหม่ล่าสุดจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ และสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แสดงตัวเลขการเติบโตของแคลิฟอร์เนียล่าสุด

ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดดังกล่าวพบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ของรัฐแคลิฟอร์เนีย อยู่ที่ระดับ 4.10 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 คิดเป็นเงินไทยราว 137 ล้านล้านบาท แซงหน้าญี่ปุ่นที่มีจีดีพีอยู่ที่ 4.01 ล้านล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 134 ล้านล้านบาท

ตัวเลขใหม่ยังแสดงจีดีพีล่าสุดของ 3 ประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่สุดในโลก อันดับ 1 คือ สหรัฐฯ อยู่ที่ 29.18 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 1,000 ล้านล้านบาท อันดับ 2 คือจีน อยู่ที่ 18.74 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 620 ล้านล้านบาท ส่วนอันดับ 3 เยอรมนีอยู่ที่ 4.65 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 155 ล้านบาท 

ส่วนสาเหตุที่ญี่ปุ่นตกไปเป็นอันดับ 5 นั้น เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกดดันจากประชากรที่ลดลงและยังสูงอายุ ทำให้แรงงานหดตัวลง ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในด้านสวัสดิการสังคมกลับพุ่งสูงลิ่ว

นิวซัมแสดงความกังวลทันทีในระหว่างการแถลงข่าวน่ายินดีดังกล่าว ว่า "ภาษีทรัมป์" จะส่งผลกระทบต่ออนาคตทางเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนีย กล่าวโจมตีนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ว่า กำลังคุกคามความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนีย เศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนียเป็นพลังของประเทศชาติ และต้องได้รับการปกป้อง

ข่าวนี้เกิดขึ้นหลังนิวซัมเพิ่งฟ้องร้องทางกฎหมายต่อทรัมป์ กล่าวหาทรัมป์ไม่มีอำนาจในการเก็บภาษีนำเข้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดโลกและการค้าโลก 

สำหรับรัฐแคลิฟอร์เนีย ครองส่วนแบ่งมากที่สุดในการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรของสหรัฐฯ เป็นฐานของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีชั้นนำของสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมบันเทิงโลก และยังมีท่าเรือใหญ่สุดของสหรัฐฯ 2 แห่ง

ส่วนนิวซัม เป็นผู้ว่าการรัฐจากพรรคเดโมแครตที่โดดเด่น และเป็น 1 ในตัวเก็งผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งหน้าปี 2028