สวัสดีครับสำหรับท่านใดที่มีและใช้รถจักรยานยนต์อยู่ เชื่อว่าสิ่งที่ตามมานั่นก็คือการดูแลบำรุงรักษา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามเราก็ต้องทำการดูแลบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้วก็คือรถจักรยานยนต์ที่จะนำมาแบ่งปันกันในบทความนี้ สิ่งแรกที่จะต้องหมั่นตรวจเช็คก็คืออุปกรณ์ความปลอดภัยขณะขับขี่ ก็คือเบรคหน้า เบรคหลัง หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับเบรค เช่นผ้าเบรคหมด เบรคไม่ค่อยหยุดแล้ว เราก็ต้องนำรถไปเข้าร้านเพื่อทำการตรวจเช็คและเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่หากผ้าเบรคหมดสิ่งที่ตามมานั้นก็คือค่าใช้จ่าย ค่าอะไหล่และค่าแรงนั่นเอง แต่บทความนี้จะมาพาทุกท่านลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงไปได้ และอาจจะเป็นแนวทางสำหรับสร้างอาชีพให้กับใครที่สนใจก็เป็นได้ครับ นั่นก็คือ เทคนิคการเปลี่ยนผ้าดิสเบรคหน้า รถจักรยานยนต์ง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง กันครับถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยครับสิ่งที่ช่างมือใหม่หรือใครที่กำลังอยากจะเป็นช่างหากยังไม่รู้วิธี การเปลี่ยนผ้าดิสเบรคหน้ารถจักรยานยนต์นี้ จะต้องเจอกับอุปสรรคตัวหนึ่งอย่างแน่นอนคือ ใส่ผ้าเบรคใหม่แล้วเอาไปใส่ในจานดิสเบรคไม่ได้ เป็นเพราะอะไรนะเหรอ? ก็เป็นเพราะว่าเรายังไม่ได้รีเซ็ตตำแหน่งกระบอกลูกสูบปั๊มดิสเบรคกลับลงไปนั่นเอง จึงไม่สามารถทำให้ผ้าดิสเบรคอันใหม่มีช่องว่างพอที่จะสวมเข้ากับจานดิสเบรคได้ เราไปดูเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ต้องมีกันเลยครับเครื่องมือและอุปกรณ์ประแจบล็อกเบอร์ 8 และเบอร์ 12ซีแคลมป์ หรือแคลมป์จับชิ้นงานนั่นเองจาระบีหล่อลื่นผ้าดิสเบรคใหม่นำมันเบนซิน ไว้ล้างทำความสะอาดวิธีการทำ1.ใช้ประแจเบอร์ 8 คลายสกรูยึดผ้าเบรคจะมี 1 ตัวให้พอหลวมๆ ก่อน จากนั้นใช้เบอร์ 12 คลายสกรูยึดชุดปั๊มเบรคออกจะมีอยู่ 2 ตัว2.เมื่อยกปั๊มเบรคออกมาได้แล้ว ให้นำสกรูเบอร์ 8 ที่ยึดผ้าเบรคออกได้เลย จะเห็นได้ว่าผ้าเบรคเก่าหมดสภาพจนเห็นเนื้อในโลหะ และระวังสปริงดันผ้าเบรคหลัดหายนะครับ ให้ดึงออกมาทำความสะอาดด้วยและใส่กลับให้ถูกด้านนะครับ3.ถอดคาลิปเปอร์ออกมาทำความสะอาด โดยออกแรงดึงพร้อมกับโยกช่วยนิดหน่อยตามภาพ4.ทำความสะอาดรูขาคาลิปเปอร์ทั้งสองด้วยน้ำมันเบนซิลเพื่อล้างคราบจาระบีเก่าที่แห้งติดอยู่ออกให้หมดแล้วใส่จาระบีใหม่เข้าไปครึ่งรู หรือท่านใดจะนำชุดปั๊มไปล้างในน้ำผงซักผ้าก็ได้เช่นกันครับ สะอาดสวยงามแต่ต้องรอให้แห้งดีก่อนจึงใส่จาระบีเข้าไป5.ทำความสะอาดขาคาลิปเปอร์ทั้งสองข้างให้คราบจาระบีที่แห้งติดออกให้หมด แล้วทาจาระบีใหม่เข้าไป6.นำแคลมป์จับชิ้นงานมากดกระบอกลูกสูบปั๊มเบรคลงเพื่อรีเซตให้ไปอยู่ตำแหน่งเริ่มต้น ขั้นตอนนี้เองที่ทำให้หลายท่านมองว่าการเปลี่ยนผ้าดิสเบรคยากหากยังไม่รู้วิธีครับ โดยหมุนเกลียวแคลมป์จับชิ้นงานอัดลงไปจนขอบลูกสูบลงไปเสมอกันกับขอบเรือนปั๊มตามภาพ7.ใส่สปริงดันผ้าเบรคกลับเข้าไป โดยจะมีขาล็อคของสปริงเสียบลงรูพอดีหากใส่ถูกด้าน สปริงจะไม่หลวมขยับไปมาได้ครับ8.นำผ้าดิสเบรคใหม่ใส่เข้าไปตามภาพ แล้วนำสกรูเบอร์ 8 ใส่เพื่อยึดผ้าเบรค โดยออกแรงกดหูร้อยสกรูของผ้าเบรคลงกับสปริงดันผ้าเบรค เพื่อให้สกรูร้อยเข้าไปได้ทั้งสองแผ่น แล้วไขสกรูให้สุดครับ9.จะเห็นได้ว่ามีช่องว่างตรงกลางระหว่างผ้าเบรคทั้งสอง เพื่อให้สามารถใส่กลับเข้าไปกับจานดิสเบรคได้นั่นเอง หากช่องว่างไม่พอแสดงว่าลูกสูบลงยังไม่สุดครับ ให้นำชุดปั๊มสวมใส่กับจานดิสเบรคแล้วเลื่อนให้ตำแหน่งรูศกรูตรงกันยึดสกรูเบอร์ 12 ให้แน่น ตามด้วยน้ำสกรูเบอร์ 8 อีกครั้งครับ10.จากนั้นให้กำมือเบรคแล้วปล่อย 3-4 ครั้ง เพื่อให้ลูกสูบมาอยู่ตำแหน่งพร้อมเบรค จะสังเกตได้ว่ากำ 3-4 ครั้งแรก จะรู้สึกหลวมๆ ไม่ตึงมือเพราะลูกสูบยังไม่ดันผ้าดิสเบรคนั่นเองครับสำคัญ ห้ามลืมทดสอบเบรคหลังจากประกอบกลับเสร็จสิ้นแล้วนะครับ เพราะหากนำรถออกไปใช้งานอาจเกิดอันตรายได้เนื่องจากเบรคยังไม่อยู่ตำแหน่งพร้อมทำงาน หรือเบรคไม่อยู่นั่นเองครับภาพโดยผู้เขียน7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์