เชื่อว่าหลายคนกำลังวางแผนการเกษียณให้กับตนเอง วางแผนไว้ว่าหลังจากเลิกทำงานแล้ว จะนำเงินที่สะสมมาไปทำสิ่งต่างๆ แต่การเก็บเงินนั้นก็ช่างยากเย็น ลำพังการออมใส่กระปุก ใส่ธนาคาร ก็ชอบหยิบเผลอเอาเงินส่วนนี้มาใช้ทุกทีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น นอกจากการวางแผนทางการเงินที่ดีแล้ว ตัวช่วยในเรื่องการออมก็เป็นสิ่งสำคัญในการสะสมเงินเพื่อการเกษียณอย่างเป็นสุข วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ 6 ตัวช่วยที่จะช่วยให้การเก็บเงินยามเกษียณของเราเป็นไปโดยราบรื่นมายิ่งขึ้น เก็บเงินให้เราโดยที่เราไม่เผลอตัวหยิบออกมาให้ได้ง่ายๆ แน่นอนกองทุนบำเน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)นับว่าป็นตัวเลือกทางการออมเงินของผู้ที่รับราชการ โดยจะเป็นการหักเงินเดือนของข้าราชการในแต่ละเดือนมาไว้ในกองทุน และกองทุนก็จะนำเงินส่วนนั้นไปลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และตัวรัฐเองก็จะช่วยสมทบให้อีกส่วนหนึ่งจนเมื่อถึงเวลาที่เราเกษียณก็จะได้รับเงินก้อนเป็นบำเน็จไว้ใช้จ่ายยามเกษียณ หรือจะเลือกรับบำนาญเป็นเงินใช้จ่ายแต่ละเดือนก็ได้เช่นกัน ซึ่งแต่ละทางเลือกก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันตรงที่ หากเลือกรับบำเน็จเราก็จะมีเงินก้อนมาใช้จ่าย ปลดภาระหนี้สิน หรือลงทุนได้ทันที แต่ก็จะมีความเสี่ยงที่จะต้องมีการบริหารจัดการเงินให้เพียงพอตลอดอายุไข แต่หากเลือกรับบำนาญก็เหมือนเป็นการประกันรายรับในแต่ละเดือนภาพประกอบจาก กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพสำหรับใครที่ไม่ใช่ข้าราชการ แต่ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่องรัฐ หรือพนักงานบริษัทเอกชน ทางเลือกการออมคือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งมีหลักการดำเนินงานเช่นเดียวกบ กบข. คือการหักเงินเดือนของพนักงานแต่ละเดือนมาลงทุนในกองทุน และนายจ้างจ่ายสมทบตามนโยบายของแต่ละบริษัท แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีความต่างอยู่ที่เป็นการออมโดยสมัครของลูกจ้าง ว่าเข้าหรือไม่เข้าเป็นสมาชิกกองทุนก็ได้ และเงินที่จ่ายเข้ากองทุนสามารถเลือกจ่ายได้ตั้งแต่ร้อยละ 2-15 ของค่าจ้าง และเมื่อถึงเวลาเกษียณลูกจ้างก็จะได้เงินก้อนจากกองทุนและเงินที่นายจ้างสมทบให้(ส่วนใหญ่เกือบเท่าตัว) ซึ่งอัตราต่างๆ แน่นอนว่าขึ้นอยู่กับฐานเงินเดือน และระยะเวลาการทำงานของแต่ละคนภาพประกอบจาก freepikกองทุนประกันสังคมสำหรับพนักงานบริษัทเอกชน และเป็นผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม จะต้องจ่ายเงินให้กับประกันสังคมในทุกเดือน โดยใช้ฐานเงินเดือนสูงสุดอยู่ที่ 15,000 บาทจะหัก 5% ของเงินเดือน หรือไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน ข้อดีของการเป็นสมาชิกประกันสังคมคือ เรามีสิทธิที่จะเบิกเงินจากประกันสังคมได้ในหลายกรณี เช่น การรักษาพยาบาล เงินรายเดือนตอนว่างงาน หรือแม้แต่เงินออมยามเกษียณ ตอนอายุครบ 55 ปี ซึ่งจะมีเงื่อนไขต่างกันตรงที่ หากส่งเงินประกันสังคมมากกว่า 15 ปี ก็จะได้รับบำนาญ หากน้อยกว่าก็จะได้รับบำเหน็จ ภาพประกอบจาก สำนักงานประกันสังคมกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ถัดมาสำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นทั้งข้าราชการ พนักงานบริษัท หรือเป็นบุคคลที่อยู่นอกระบบในส่วนนี้ ไม่ได้เป็นสมาชิกกบข. ประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เช่น เกษตรกร วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ ฯลฯ เป็นต้น ก็จะมีทางเลือกการออมที่เรียกว่า กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ซึ่งเริ่มต้นการออมได้ที่เดือนละ 50 บาทเท่านั้น ซึ่งต่อปีสูงสุดได้ไม่เกินปีละ 13,200 บาท และได้รับการสมทบจากภาครัฐตามเงื่อนไขในแต่ละช่วงอายุ (หลักการจึงตล้ายกับ กบข. และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) โดยจะได้รับบำนาญตลอดชีพ เมื่ออายุครบ 60 ปีภาพประกอบจาก กองทุนการออมแห่งชาติกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)ต่อมาทางเลือกที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ทุกฐานอาชีพ โดยเป็นการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF) ซึ่งมีหลากหลายความเสี่ยง หลากหลายการลงทุนให้เลือก เช่น หุ้น ตราสารหนี้ ทองคำ พัธบัตรรัฐบาล ฯลฯโดยแต่ละกองก็จะมีผลการดำเนินงานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในการลงทุนนั้นจะต้องลงทุนขั้นต่ำที่ 5,000 บาทต่อปีหรือ 3% ของรายได้ และต้องถือไปจนถึงอายุ 55 ปี ถึงจะสามารถถอนออกมาได้ นอกจากการนี้การลงทุนในกองทุน RMF ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วยภาพประกอบจาก freepikประกันชีวิตแบบบำนาญทางเลือกสุดท้ายคือ การทำประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งลักษณะของกรมธรรม์นั้นจะเป็นเหมือนการจ่ายเงินให้กับบริษัทประกันในทุกปี ตามระยะเวลาที่กรมธรรม์กำหนด (ส่วนใหญ่จะไม่ใช่การจ่ายจนเกษียณ) และหลังจากนั้น หากผู้เอาประกันมีชีวิตจนถึงอายุ 60 ปี บริษัทประกันภัยจึงจะจ่ายเงินคืนให้กับผู้ทำประกันชีวิตเป็นรายปี หรือรายเดือน ซึ่งเป็นเงินก้อนที่ผู้เอาประกันจ่ายไว้บวกกับเงินสมทบที่บริษัทมอบให้ตามเงื่อนไขประกัน ภาพประกอบจาก freepikและนี้ก็เป็น 6 ทางเลือกในการออมเงิน สำหรับยามเกษียณของพวกเราทุกคน เราจะเห็นได้ว่าทั้งหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชน พยายามออกแบบช่องทางการออมต่างๆ ให้เราสามารถออมได้มากขึ้น สำหรับใครที่ยังไม่ได้เริ่มออม ก็อยากจะให้เริ่มต้นออมเสียตั้งแต่วันนี้ ตรวจสอบสิทธิประโยชน์ที่คุณมี หรือสามารถทำได้ แล้วเราจะเกษียณอย่างเป็นมั่นคงและเป็นสุข สวัสดีค่ะ