แม่ตามหาลูกหายลึกลับ 2 เดือน เข้าฝันแม่ เจออีกทีเหลือแต่โครงกระดูก
แม่ตามหาลูกหายลึกลับ 2 เดือน เจออีกทีเหลือแต่โครงกระดูก-หัวกะโหลก ใกล้เถียงนา หมอดูบอกลูกยังไม่ตาย เข้าฝันแม่เห็นลูกกลับมาบ้าน แต่ไม่ยอมเข้า
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ประวิทย์ อิ่มใจ รอง (สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี รีบแจ้งมีคนพบกะโหลกศีรษะและกระดูกมนุษย์ ที่เถียงนาท้ายบ้านบ่อน้อย หมู่ 11 ต.เชียงยืน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม
ที่เกิดเหตุพบกะโหลกศีรษะมนุษย์ ห่างไปประมาณ 100 เมตร ติดกับไร้อ้อย พบโครงกระดูกวางกระจัดกระจายอยู่ในพงหญ้า และมีเสื้อผ้ากองอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เก็บกะโหลกและกระดูกมากองและห่อด้วยผ้าขาว และระบุว่าเป็นกระดูกมนุษย์ผู้ชาย เสียชีวิตมาประมาณ 1-2 เดือน
จากการสอบสวนนายสุพจน์ แสงหมี อายุ 58 ปี ผู้พบโครงกระดูก ให้การว่าวันนี้มาสูบน้ำใส่นาข้าว เสร็จแล้วจึงเดินเก็บท่อพีวีซี และรดน้ำต้นไม้ที่เถียงนา ก็มาพบกะโหลกมนุษย์วางอยู่ คิดว่าเป็นของเล่นที่หมาคาบมา แต่พอดูดีๆ พบว่าเป็นกะโหลกมนุษย์
ต่อมาหมาตัวผู้ชื่อ “บักจ่อย” ซึ่งเป็นหมา 1 ใน 8 ตัวที่ตนเลี้ยงไว้ คาบกระดูกมาอีก ตนจึงเรียกเพื่อนมาดู พบว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ ตกกระจัดกระจายอยู่ในพงหญ้า จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ต่อมา นางสมบูรณ์ ไชยมณี อายุ 76 ปี ชาวบ้าน ต.เชียงยืน จ.อุดรธานี ซึ่งมีเถียงนาอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เดินทางมาดู และมั่นใจว่าโครงกระดูกนี้ เป็นโครงกระดูกนายกิตติศักดิ์ ไชยมณี อายุ 44 ปี ลูกชาย ซึ่งหายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 23 ก.ย.64 อย่างแน่นอน
นางสมบูรณ์ ให้การว่า ตนมีลูก 6 คน นายกิตติศักดิ์เป็นลูกคนที่ 5 เมื่อ 3 ปีก่อน ลูกประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องผ่าตัดสมอง เมื่อรักษาหายกลับบ้าน ก็กลายเป็นคนพิการทำงานไม่ได้ แถมยังมีอาการลมชักอีกด้วย ลูกชอบเดินจากบ้านไปเถียงนาเป็นประจำ
ก่อนหายตัวไปลูกมีอาการลมชักกำเริบอยู่ที่บ้าน พอปฐมพยาบาลก็หายแล้ว พี่ชายก็นำมานอนเล่นที่เถียงนา และเย็นวันที่ 23 ก.ย.ลูกเดินจากเถียงนากลับบ้าน ก็กลับไม่ถึงบ้าน ตนและญาติออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ตนเชื่อว่าลูกจะหลงทาง ผ่านไป 48 ชม. จึงไปแจ้งความคนหาย และแจ้งมูลนิธิกระจกเงา
“ตลอดเวลาที่ลูกหายออกจากบ้าน ก็ใส่บาตรพร้อมกับอธิษฐานว่าขอให้พบลูกทุกครั้ง และพากันไปดูหมอตามที่ต่างๆ ซึ่งหมอดูก็บอกว่าลูกยังไม่ตาย ยังมีชีวิตอยู่ เดือนพฤศจิกายนจะกลับมาบ้าน แต่ขณะรอให้ลูกกลับมา ฝันเห็นลูกกลับมาบ้าน แต่เดินรอบบ้าน ไม่เข้าบ้าน
ยังมีญาติพี่น้องฝันเห็นว่า ลูกสวมชุดดำกลับมาบ้าน แต่ยืนอยู่นอกบ้าน มาวันนี้ขณะมัดดอกไม้ที่จะขายในวันพระ มีชาวบ้านไปบอกว่า มีคนพบโครงกระดูกมนุษย์ จึงรีบมาดู มั่นใจว่าเป็นโครงกระดูกของลูกแน่นอน เพราะบริเวณนี้ไม่มีใครหายไป นอกจากลูก ที่สำคัญที่กะโหลกมีรอยผ่าตัดสมอง ก็ไม่ดีใจ เพราะลูกเสียชีวิต แต่รู้สึกโล่งใจที่พบลูกแล้ว” นางสมบูรณ์ กล่าว
ส่วนนางหนูพิศ กันศักดิ์ อายุ 64 ปี อาผู้ตาย กล่าวว่า ตั้งแต่หลานหายตัวไป ก็ฝันเห็นหลานหลายครั้งว่าหลานถือลูกโป่งสวรรค์จำนวนมากลอยลงมา ซึ่งลูกโป่งทุกลูกเสียบด้วยเข็มฉีดยา ต่อมาฝันเห็นหลานใส่ชุดดำมาบ้านกับเพื่อนผู้ชายรวม 7 คน แต่ยืนอยู่หน้าบ้าน เข้าบ้านไม่ได้ ตนก็พูดให้พี่ชายฟัง หลังจากนั้นก็ไปดูหมอ ซึ่งหมอดูบอกว่ายังไม่ตาย ยังอยู่ในป่า เดือนนี้ก็จะเห็น พวกตนก็พากันไปหาในตัวเมืองอุดรธานี แต่ก็ไม่พบ ทุกครั้งที่ฝันผู้ตายจะเข้าบ้านไม่ได้ จึงปรึกษากันว่าคงจะตายเป็นผีแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะที่ผู้ตายเดินกลับบ้านตามลำพัง อาจเกิดโรคลมชักกำเริบ ไม่มีใครพบเห็นและช่วยเหลือ จึงทำให้เสียชีวิต ที่แจ้งคนหายเพียงคนเดียว จึงมอบโครงกระดูกให้นางสมบูรณ์ นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป