โลกร้อนกระทบคนทำงาน เครียดมากขึ้น-ต้องการลาออก

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังกลายเป็นภัยร้ายใหม่ของสถานที่ทำงานทั่วโลก อุณหภูมิที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่องทำให้แรงงานมากกว่าหนึ่งพันล้านคนต้องเผชิญคลื่นความร้อน ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของพวกเขาโดยตรง ยุโรปในฤดูร้อนที่ผ่านมาเป็นภาพสะท้อนชัดเจน เมื่อคลื่นความร้อนทำลายสถิติ จุดไฟให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่และภาวะแห้งแล้งในหลายประเทศ งานวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า

กรณีของนักทำความสะอาดถนนในบาร์เซโลนา วัย 51 ปี ที่ล้มลงกลางกะงานท่ามกลางอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส กลายเป็นสัญลักษณ์ของปัญหานี้ ความสูญเสียดังกล่าวนำไปสู่การประท้วงและสร้างแรงกดดันให้เมืองต้องออกมาตรการใหม่ เช่น การเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มให้ระบายอากาศดีขึ้น การกำหนดช่วงพักน้ำทุกชั่วโมง และหยุดงานเมื่ออุณหภูมิแตะ 40 องศาเซลเซียส การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นตอกย้ำว่า “ความร้อนจัด” ไม่ใช่แค่ภาวะอากาศ แต่เป็นภัยคุกคามในที่ทำงานที่รุนแรงพอจะพรากชีวิตได้

รายงานจาก International SOS ระบุว่าคลื่นความร้อนเป็นหนึ่งในความเสี่ยงสำคัญต่อสถานที่ทำงาน และการประเมินเพียงอุณหภูมิอากาศไม่เพียงพออีกต่อไป ปัจจัยอย่างความชื้นและลมทำให้ความร้อนรุนแรงกว่าเดิม ทำให้นายจ้างจำเป็นต้องปรับมาตรการความปลอดภัยตามกฎระเบียบใหม่ที่คาดว่าจะเข้มงวดขึ้น แม้การเปลี่ยนเวลาทำงาน เช่น การทำงานตอนกลางคืน อาจช่วยหลีกเลี่ยงความร้อน แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงเรื่องการมองเห็นและอุบัติเหตุในอีกด้านหนึ่ง

แม้ไม่ถึงขั้นอันตรายถึงชีวิต ความร้อนก็ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่าผลผลิตแรงงานลดลง 2–3% ทุกครั้งที่อุณหภูมิเพิ่มเกิน 20 องศาเซลเซียส และหากร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่า 38 องศา จะไม่สามารถทำงานต่อได้อย่างปลอดภัย ผลกระทบนี้จะรุนแรงมากขึ้นในอนาคต และประเทศรายได้น้อยจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

นอกจากร่างกายแล้ว สภาพอากาศสุดขั้วยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของแรงงาน งานวิจัยในปี 2022 พบว่าความเครียดจากสภาพอากาศอาจเพิ่มความตึงเครียดในงาน กระตุ้นให้เกิดความต้องการลาออกมากขึ้น และทำให้บรรยากาศในที่ทำงานเป็นพิษ อีกทั้งยังลดความสามารถในการตัดสินใจ และอาจทำให้คนที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมทำงานหนักเกินตัวด้วยความกังวลต่อวิกฤตภูมิอากาศ

ท้ายที่สุด วิกฤตภูมิอากาศกำลังบีบให้สถานที่ทำงานต้องปรับตัวทั้งด้านความปลอดภัย สุขภาพกาย และสุขภาพจิต มาตรการปกติไม่เพียงพออีกต่อไป การสร้างระบบรองรับที่ยืดหยุ่นและเท่าทันความร้อนที่รุนแรงขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น หากต้องการปกป้องแรงงานหลายล้านคนจากภัยเงียบที่กำลังกัดกินคุณภาพชีวิตและความปลอดภัยของพวกเขาในทุกวันทำงาน