เปิด 4 ตัวแปร ทำหาดใหญ่จมบาดาล

1. สภาพภูมิประเทศ

“หาดใหญ่” เป็นพื้นที่ลุ่มราบต่ำ ลักษณะภูมิประเทศคล้ายแอ่งกระทะ มีคลองอู่ตะเภาเป็นคลองสายหลักที่รับน้ำจากป่าต้นน้ำของอำเภออื่นๆ ในจังหวัดสงขลา อีกทั้งน้ำจากเขาคอหงส์ ก็ต้องไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ก่อนไปสู่ทะเลสาบสงขลา สรุปคือหาดใหญ่เป็นพื้นที่แอ่งกระทะที่น้ำจากพื้นที่สูงรอบเมืองไหลมารวมกันได้ง่าย 

 2. ฝนมากผิดปกติ

จากอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมภาคใต้ตอนล่างและไม่ขยับไปไหนตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. ทำให้เกิดเป็นลักษณะ “ฝนแช่” ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน โดยที่อ.เทพา มีปริมาณฝนสะสม 3 วัน (22-24 พ.ย.) อยู่ที่ 793.6 มม. กรมชลประทานนิยามฝนตกครั้งนี้ว่า “ฝนตกหนักสุดในรอบ 300 ปี” คำนี้เป็น “คำอธิบายทางสถิติอุทกวิทยา” หมายถึงเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ประมาณ 1 ครั้งใน 300 ปี หรือมีความน่าจะเป็นเพียง 0.33% ต่อปี สะท้อนว่าปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ครั้งนี้อยู่ในระดับรุนแรงและผิดปกติมากกว่าค่าเฉลี่ยหลายเท่าตัว

3. น้ำทะเลหนุนสูง

เกิดน้ำทะเลหนุนสูง 20-29 พ.ย. ทำให้น้ำจากทุกทิศทางที่ไหลมารวมกันนั้นระบายออกสู่ทะเลได้ยาก

4. การเปลี่ยนแปลงผังเมือง/แผนเผชิญเหตุล้มเหลว

การขยายตัวของเมืองหาดใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มาแทนพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่า และพื้นที่ดูดซับน้ำ ทำให้น้ำไหลไปถึงตัวเมืองเร็วกว่าที่เคย