ญี่ปุ่นทำแผนฉุกเฉิน ป้องกันหมีทำร้ายประชาชน

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนว่า ได้จัดทำ “แผนฉุกเฉินเพื่อป้องกันเหตุหมีโจมตี” โดยเน้นย้ำแนวทางการลดจำนวนหมีในประเทศอย่างจริงจัง และเพิ่มบุคลากรที่สามารถรับผิดชอบภารกิจดังกล่าว ท่ามกลางความเสี่ยงต่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจากการปรากฏตัวของหมีตามพื้นที่ต่าง ๆ

มิโนรุ คิฮาระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงต่าง ๆ จัดทำแผนดำเนินงานภายในสิ้นปีงบประมาณนี้ ซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมายใหม่เกี่ยวกับจำนวนหมีที่จำเป็นต้องจับในแต่ละภูมิภาค โดยตั้งเป้าขับไล่หมีออกจากเขตชุมชน และเพิ่มศักยภาพด้านการจับหมี 

มาตรการส่วนใหญ่ในแผนดังกล่าวมุ่งเพิ่มบุคลากรและทรัพยากรสำหรับการจัดการและควบคุมประชากรหมี เนื่องจากปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ระบบการดูแลป้องกันมีประสิทธิภาพต่ำในปัจจุบัน

รัฐบาลได้อนุญาตให้ตำรวจสามารถใช้ปืนไรเฟิลยิงหมีได้ เพื่อบรรเทาภาระของสมาชิกสมาคมนักล่าสัตว์ท้องถิ่น ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจเป็นกลุ่มเดียวในประเทศที่ได้รับอนุญาตให้ควบคุมจำนวนหมี

นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมติดต่อผู้ที่เคยมีประสบการณ์ใช้อาวุธปืน เช่น อดีตตำรวจและอดีตทหารกองกำลังป้องกันตนเอง เพื่อขอความร่วมมือในการควบคุมประชากรหมี พร้อมทั้งสนับสนุนให้บุคคลเหล่านี้สอบใบอนุญาตล่าสัตว์ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่สามารถลงพื้นที่ปฏิบัติงานได้จริง

รัฐบาลยังมีแผนขยายความช่วยเหลือด้านการเงินแก่เทศบาลต่าง ๆ สำหรับค่าใช้จ่ายในการจ้าง “นักล่าของรัฐ” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีใบอนุญาตล่าสัตว์ รวมถึงงบประมาณในการซื้อกับดักสัตว์

ในระยะกลาง รัฐบาลตั้งใจพัฒนาบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการสัตว์ป่า เพื่อเพิ่มทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การเพิ่มจำนวนของหมีจนควบคุมไม่ได้ในญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดบุคลากรเฉพาะทางและงบประมาณไม่เพียงพอ ทั้งในระดับเทศบาลและระดับจังหวัด

แผนดังกล่าวยังรวมถึงมาตรการป้องกันไม่ให้หมีเข้ามาในพื้นที่ชุมชน เช่น การกำจัดสิ่งดึงดูดหมีอย่างต้นพลับที่ถูกทิ้งร้าง รวมทั้งการติดตั้งรั้วไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เกษตรกรรม

หลายกระทรวงร่วมกันจัดทำแผนนี้ เพื่อตอบสนองต่อยอดสถิติการโจมตีของหมีในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ราย และพบการพบเห็นหมีมากกว่า 20,700 ครั้ง