นับตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาประเทศไทยของเราก็ประสบกับวิกฤตต่าง ๆ มาไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นภัยด้านสงครามเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สองที่ทำให้ประเทศไทยเกือบเสียดินแดนและตกเป็นเมืองขึ้น วิกฤตด้านการเมืองที่ทำให้เกิดจลาจลมีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ภัยธรรมชาติอย่างสึนามิที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เป็นต้น แต่ภัยเหล่านั้นก็เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่เฉพาะมิได้ขยายวงกว้างออกไป ซึ่งในครั้งนี้เราต้องเผชิญกับวิกฤตที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกคือ Covid-19 ถึงแม้ว่าในตอนนี้จะมียอดผู้เสียชีวิตไม่มากเท่ากับ บางเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต แต่ความน่ากลัวของ Covid-19 คือสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วมากโดยที่ผู้ติดเชื้อยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เป็นเหตุให้ต้องใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคร้ายนี้แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยการหยุดกิจกรรมทางสังคมทุกอย่าง ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม ( Social Distancing ) โดยให้ประชาชนต่างกักตัวเองให้อยู่ภายในบ้าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก ปกติแล้วคนมักจะพูดกันว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส ซึ่งก็คงเป็นจริงดังนั้นเพราะเมื่อปัญหาผ่านไป สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ดูเหมือนว่าวิกฤต Covid-19 นั้น จะทำให้หลาย ๆ ท่านต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมาก เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกิดวิกฤตที่ซ้อนวิกฤตขึ้นมา ซึ่งในตอนนี้ก็เห็นได้ชัดในเรื่องของเศรษฐกิจที่กำลังเข้าสู่ภาวะตกต่ำไปทั่วโลก ทำให้เป็นที่มาของการเกิดอีกหลาย ๆ ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน วิกฤตอะไรบ้างที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ 1. เศรษฐกิจตกต่ำ ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน เรามีโอกาสจะได้ประสบกับปัญหาเงินฝืดและเงินเฟ้อในเวลาเดียวกัน ด้านต้นทุนสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่ประชาชนแทบจะไม่มีเงินจับจ่ายใช้สอย หลาย ๆ อาชีพอาจไม่สามารถดำเนินไปได้เหมือนอย่างที่เคยเป็น รวมถึงอีกหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้ไม่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศได้ ทำให้หลาย ๆ หน่วยงานและองค์กรต่างพยายามหามาตรการที่จะนำมาใช้ช่วยให้สามารถรอดพ้นจากปัญหานี้ไปได้ 2. มีคนว่างงานจำนวนมาก ในช่วงที่เรากำลังเผชิญกับ Covid-19 อยู่นั้นก็มีหลายโรงงานเลิกจ้างแรงงานเป็นจำนวนมากและคาดว่าจะต้องมีอีกเรื่อย ๆ เพราะสถานประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระค่าแรงในช่วง lock down ได้ ทำให้มีคนจำนวนมากไม่มีรายเลี้ยงชีพ ซึ่งปัญหานี้ก็เป็นอีกวิกฤตหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไม่น้อยเลยทีเดียว 3. อาชญากรรมพุ่งสูง ผลพวงจากเศรษฐกิจตกต่ำและปัญหาการว่างงาน คนจำเป็นต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด ไม่ต้องการให้ครอบครัวอดอยาก อีกทั้งการได้รับการช่วยเหลือที่อาจไม่ทั่วถึง เป็นแรงกระตุ้นให้ก่ออาชญากรรมได้ง่าย และปัญหาอาชญากรรมจะยิ่งน่ากลัวและรุนแรงขึ้นเมื่อมีการเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ทำให้ใครก็สามารถเป็นอาชญากรได้ ผลที่ตามมาคือทำให้ผู้คนใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง และยากที่จะทำให้ประเทศอยู่ในความสงบได้ 4. เกิดการเรียกร้องสิทธิ หากผ่านช่วง Covid-19 ไป แต่ประชาชนยังต้องทนทุกข์อยู่กับพิษเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกิดช่องว่างและความเหลื่อมล้ำสูงระหว่างคนจนกับคนรวย ทำให้คนจนต้องการได้รับสิทธิที่เท่าเทียมจึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ ซึ่งหากไม่ได้รับสิทธิตามที่ต้องการก็อาจยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนเกิดเป็นจลาจลได้ เราจะรับมือกับวิฤตหลังจากนี้อย่างไร 1. รัดเข็มขัดให้แน่น การรัดเข็มขัดก็หมายถึงการบริหารการเงินของตนเองอย่างรัดกุม ใช้เงินให้ประหยัดและจำเป็นที่สุด หากใครที่ยังมีกระแสเงินสดอยู่ก็ให้รักษากระแสเงินสดไว้ ในช่วงนี้หากใครพอมีช่องทางหารายได้เสริมก็ควรตั้งใจทำให้ดีที่สุด จริงอยู่ที่แม้ว่าหลาย ๆ กิจการจะต้องปิดลงเพราะพิษ Covid-19 จนกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจ แต่กิจการใหญ่ ๆ หลายกิจการก็ยังมีเงินอยู่มาก หากเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายเหล่ากิจการเหล่านี้ก็จะมีเงินทุนพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับมาตรการช่วยเหลือของรัฐด้วย ว่าจะสามารถช่วยให้กิจการเหล่านี้และประชาชนขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างไรบ้าง 2. ต้องเรียนรู้และฝึกฝนทักษะใหม่ ๆ โดยเฉพาะด้านของเทคโนโลยี เพราะหลังจากนี้หากใครไม่อยากตกงานก็จำเป็นอย่างมากที่จะต้องปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital อย่างเต็มรูปแบบ อุตสาหกรรมที่มีทุนหนาก็จะเริ่มนำหุ่นยนต์ระบบ AI เข้ามาแทนที่มนุษย์ การเรียนรู้ที่จะปรับตัวและเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เพราะหลังจากนี้ทุกสิ่งต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน 3. สร้างกระแส Social Network ให้เข้มแข็งป้องกันการเกิดอาชญากรรม ปัญหาอาชญากรรมนั้นป้องกันได้อยาก เพราะขณะนี้มีผู้คนเดือดร้อนเป็นจำนวนมากทุกคนย่อมหาทางที่จะเอาชีวิตรอด และยอมที่จะทำสิ่งผิดเพื่อชีวิตของตนเองและครอบครัวโดยไม่ได้คำนึงถึงชีวิตคนอื่น การสร้างกระแส Social Network ที่มุ่งเน้นให้คนมีคุณธรรมและช่วยเหลือกัน จะเป็นสิ่งที่ช่วยบรรเทาให้ความต้องการกระทำผิดลดน้อยลง เผยแพร่แต่สิ่งที่ดีให้กำลังใจซึ่งกันจะกัน หากทุกคนร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันปัญหาเหล่านี้ก็จะลดลง 4. เคารพสิทธิของกันและปฏิบัติอย่างเท่าเทียมเพื่อลดช่องว่างทางสังคม ในสังคมของเรานั้นไม่ว่าจะคนจนหรือคนรวยก็เป็นเพียงฐานะของแต่ละคน ซึ่งก็ไม่ได้มีใครผิดที่มีฐานะยากจนหรือร่ำรวย เพียงแต่ควรปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียมเพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกเหลื่อมล้ำในสังคม อันนำมาซึ่งการเรียกร้องสิทธิอันก่อให้เกิดความวุ่นวาย และไม่ว่าเราจะมีฐานะที่ยากจนหรือร่ำรวยขอเพียงแต่เราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเราก็จะสามารถผ่านวิกฤตต่าง ๆ ไปได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ Covid-19 ที่เกิดขึ้นนี้ยังไม่จบและยังไม่ทราบได้ว่าจะจบลงเมื่อใด ผู้เขียนเชื่อว่าทุกท่านกำลังอดทนให้ผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้ และเมื่อผ่านไปได้แล้วถึงแม้ว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะพบกับวิกฤตเช่นไรอีก เราก็จะผ่านมันไปให้ได้ เหมือนกับวิกฤตครั้งก่อน ๆ ที่เคยผ่านมา ข้อมูลอ้างอิง : https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2145364 ภาพประกอบ 1 : ภาพโดย Masum Ali จาก Pixabay >>> link ภาพ ภาพประกอบ 2 :ภาพโดย อดิศร กรมศรี จาก Pixabay >>> link ภาพ ภาพประกอบ 3 : ภาพโดย 41330 จาก Pixabay >>> link ภาพ ภาพหน้าปก : ภาพโดย Daniel Roberts จาก Pixabay >>> link ภาพ