จินตนาการในวัยเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เด็กๆ คนไหนมีโอกาสได้ฟังนิทานก่อนนอนก็สามารถที่จะนำไปฝันต่อตามจินตนาการของตนเองได้ ปัจจุบันมีสื่อการเรียนรู้มากมาย ทำให้จินตนาการของเด็กๆ พัฒนาได้เร็วมาก จนผู้ใหญ่หลายๆ คนตามไม่ทันและคาดไม่ถึงด้วยซ้ำไป หากย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ยังไม่มีสื่อโซเชียลที่เข้าถึงง่ายเหมือนทุกวันนี้ นิทานก่อนนอนจึงเป็นสื่อการสอนที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละครอบครัวเลย โดยเฉพาะด้านคุณธรรม เพราะสิ่งที่สัมผัสเป็นเพียงแค่เสียงตามจังหวะการเล่าของพ่อแม่เท่านั้น ที่เหลือก็ต้องจินตนาการภาพขึ้นมาเอง เหมือนกับการฟังนิยายจากเครื่องวิทยุ ที่ฟังแล้วเห็นภาพที่เกิดขึ้นของตัวละครเลย สิ่งที่แปลกใจอย่างมากของพ่อแม่สมัยก่อนก็คือ การมีความจำที่เป็นเลิศ อย่างการเล่านิทานนานเป็นครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงได้อย่างไม่ติดขัด ทำให้การฟังนิทานดำเนินเรื่องอย่างไม่สะดุดเหมือนการดูหนัง ละครในปัจจุบันเลย ต่างกันแค่มีภาพประกอบ เสียงดนตรี และเสียงที่แตกต่างของตัวละครเท่านั้น ลูกๆ ที่นอนฟังนิทานที่พ่อแม่เล่าเรื่องเดียวกัน คงจินตนาการตัวละคร บุคลิกที่ไม่เหมือนกัน แต่เข้าถึงเนื้อเรื่องได้เหมือนกัน จำได้ว่าตอนเด็กๆ พ่อมักจะเล่านิทานแนวคนสู้ชีวิตหลายเรื่องมาก เป็นเรื่องราวของตัวละครที่เป็นเด็กกำพร้าบ้าง เด็กที่พลัดพรากจากพ่อแม่บ้าง ต้องไปอยู่กับคนอื่น ไปอยู่กับคนไม่รู้จัก บางคนก็ต้องลำบากในการดิ้นรนใช้ชีวิตกับคนอื่น ต้องขยันทำมาหากิน จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ก้าวออกไปพิสูจน์ความสามารถตนเอง เจอปัญหาและอุปสรรคที่หลากหลาย สามารถแก้ไขได้ในแต่ละครั้ง จนก้าวผ่านปัญหาต่างๆ เหล่านั้นได้ แล้วค่อยได้ดิบได้ดี มีฐานะกลับมาช่วยเหลือผู้ที่มีพระคุณต้นเรื่อง เรื่องราวจะเป็นไปในทำนองนี้ค่อนข้างมาก คล้ายๆ กับการได้ดูหนังจักรๆ วงศ์ๆ เลยมีผลต่อการชอบดูละครแนวจักรๆ วงศ์ๆ ถึงทุกวันนี้จากนิทานที่ได้ยินก็ช่วยให้ปลูกฝังในการพึ่งพาตนเอง กล้าที่ลงมือทำในสิ่งต่างๆ ขณะเดียวกันก็เน้นเรื่องความกตัญญูกตเวที ไม่ลืมบุญคุณของผู้อื่นที่เคยช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ผ่านเข้ามา ไม่เบียดเบียนคนอื่นด้วยวิธีที่คดโกง เมื่อได้ดีก็ไม่ลืมตัว เด็กๆ สมัยนี้โชคดีที่มีสื่อฝึกจินตนาการมากมาย ทั้งเป็นหนังสือ มีภาพ มีเสียงหลากหลายรูปแบบ มีสื่อมีเดีย ภาพ เสียง เคลื่อนไหวได้ เลือกได้อิสระพ่อแม่ก็เบาแรง แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้สื่อเหล่านี้มาทำหน้าที่แทนพ่อแม่บางอย่างไปได้เช่นกัน ทำให้ความใกล้ชิดระหว่างลูกกับพ่อแม่อาจจะน้อยลงไปได้เหมือนกัน แต่ด้วยยุคสมัยที่แตกต่างกัน จินตนาการก็อาจจะต่างกันด้วยเช่นกัน แต่ทุกๆ จินตนาการที่สร้างสรรค์ก็สามารถต่อยอดหรือเกิดสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นในโลกใบนี้ของเราได้อีกเสมอเช่นกัน โดยอาศัยพื้นฐาน บริบท แรงบันดาลใจจากของเดิมที่เคยมีมา หรืออาจก้าวข้ามฐานเดิมไปเลยก็มี วันนี้จินตนาการก็ยังคงสำคัญเสมอเหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" เพราะความรู้อาจจะหมดไปได้ จินตนาการจึงคอยต่อยอดให้กับความรู้ที่มีอยู่ให้เพิ่มพูนขึ้นได้อย่างไม่มีสิ้นสุดนั่นเองทุกภาพประกอบ โดยผู้เขียนขอบคุณ Canva ใช้ตกแต่งภาพปกเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !