ส่องพื้นฐาน-ราคาเป้าหมายหุ้น CPF ควรลงทุนอย่างไร
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้นบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/66 จะอ่อนแอ และยังมี downside ในครึ่งปีหลังอีก ดังนั้นจึงแนะนำให้นักลงทุนรอดูสถานการณ์ไปก่อน จนกว่าจะมีพัฒนาด้านบวกของราคาหมูในประเทศไทย และจีน
ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ คาดว่าไตรมาส 2/66 ของ CPF จะขาดทุนสุทธิ 2.34 พันล้านบาท ซึ่งผลประกอบการลดลง 156% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ขาดทุน 2.73 พันล้านบาท โดยสาเหตุสำคัญคือผลดำเนินงานของ CTI ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาหมูในจีนอ่อนแอ ในขณะที่ราคาหมูที่เพิ่มขึ้นในเวียดนาม และราคาไก่ที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยยังเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุน
ส่วนแนวโน้มในครึ่งปีหลัง ฝ่ายวิจัยมีความกังวลมากขึ้นกับราคาหมูในประเทศ และการบริโภคในประเทศที่อ่อนแอเกินคาด นอกจากนี้ ราคาหมูที่ตกหนักในไทยช่วงนี้ยังทำให้สมมติฐานของฝ่ายวิจัยมี downside อีก เพราะปัญหาการนำเข้าหมูเถื่อนยังคงเป็นประเด็นค้างคาอยู่ต่อไป
ด้านบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำทยอยซื้อหุ้น CPF ให้ราคาเป้าหมายที่ 22.10 บาท โดยคาดว่ารายได้ในงวดไตรมาส 2/66 อ่อนตัวตามราคาหมูในไทยที่อ่อนตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวตาม ส่วนราคาหมูในจีนยังอ่อนตัว คาดมีผลสุทธิ 2,231 ล้านบาท ซึ่งฟื้นตัวจากไตรมาส 1/66 ที่ขาดทุนสุทธิ 2,725 ล้านบาท จากขาดทุนจากรายการพิเศษที่ลดลง ด้วยราคาตลาดของวัตถุดิบที่ลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/66 จะทำให้รอบการผลิตในครึ่งปีหลังมีต้นทุนที่ลดลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ปัจจุบันเริ่มเห็นราคาหมูฟื้นตัวแล้วในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามพบว่าความต้องการในประเทศหลักๆ ยังไม่ได้เป็นไปตามคาด
บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำ Reduce ในหุ้น CPF ให้ราคาเป้าหมายที่ 19.60 บาท โดยมีมุมมองลบว่าการฟื้นตัวของราคาหมูจีนอาจต้องรอถึงครึ่งแรกปี 2567 และราคาหมูไทยต้องรอถึงไตรมาส 4/66 ดังนั้นแนะนำในระยะ 3 เดือน ควรหลีกเลี่ยงหุ้น CPF แต่หากรอได้เกิน 6 เดือน แนะนำสะสม CPF ให้ราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 23 บาท ซึ่งมองว่าในที่สุดราคาหมูจีนจะฟื้นตัว ซึ่งเกิดหลังจากรายใหญ่ลดกำลังการผลิตและทางการจีนเข้าแทรกแซงราคาหมู
ส่วนแนวโน้มผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2/66 ของ CPF คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 496 ล้านบาท แย่ลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะราคาหมูที่ลดลงทุกประเทศ แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/66 ผลดำเนินงานฟื้นตัวในราคาหมูเวียดนาม ราคาไก่ไทย/ส่งออกไก่ ปัจจัยลบใหญ่สุดคือราคาหมูจีนซึ่งลดมากทำให้ล้างผลบวกข้างต้น ฝ่ายวิจัยจึงได้ปรับลดประมาณการปี 2566-2567 ลงจากเดิมโดยลดลง 40%และ 12% เพราะยอดขาย/กำไรยังต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้ ซึ่งคาดกำไรสุทธิปี 2566 จะลดลง 52% ก่อนฟื้นตัวในปี 2567 และคาดว่า ในครึ่งแรกปีนี้จะไม่มีเงินปันผล