รีวิวร้านตัดผมครั้งนี้ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเป็นการนำเสนอเรื่องราวของร้านตัดผม หลังจากที่ถูกล็อกดาวน์จากรัฐบาลเนื่องจาก ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือน เช่นเดียวกับหลาย ๆ ธุรกิจ ส่งผลให้บรรดาร้านต่าง ๆ ประสบปัญหา โดยร้านตัดผมเป็นธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบสูงมาก เพราะร้านที่ต้องปิดทันที โดยที่เจ้าของธุรกิจต่างก็ต้องแบกรับปัญหาที่ตามมาโดยไม่ทันตั้งตัว “บังลิค ฮิปสเตอร์” หรือ “นรินทร เจ๊ะหมัด” ผู้บริหารร้าน “Hipster Barber Shop” ร้านตัดผมแนววินเทจชื่อดัง ซึ่งมีทั้งหมด 9 สาขา เป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบทันที ร้านทั้งหมดถูกปิด ช่างตัดผม 34 ชีวิต ต้องหยุดงานกะทันหัน ช่วงเวลาเกือบ 2 เดือนนั้น “บังลิค” ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเมื่อมาถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่รัฐบาลประกาศให้ผ่อนปรนการล็อกดาวน์ให้บางธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการได้ รวมทั้งร้านตัดผม เพื่อให้คนที่ต้องการตัดผมมาใช้บริการได้อีกครั้ง “วันนี้ผมต้องเข้าร้านทุกแห่ง ลูกค้าไม่ได้ตัดผมมานาน โทรมาจองเยอะมาก” “บังลิค” บอกก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเล่าถึงช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ต้องต่อสู้มาอย่างหนัก เพื่อให้ธุรกิจก้าวต่อไปได้ เพื่อให้ร้านทั้ง 9 สาขายังคงอยู่ต่อไปได้ “การเปิดร้านตัดผมครั้งนี้รัฐบาลให้เปิด 14 วันก่อนครับ เพื่อจะประเมินสถานการณ์ก่อน ถ้าหากว่าระหว่างนี้ยอดคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นมาอีก ร้านก็จะต้องปิดอีกครั้ง ซึ่งเราทุกคนก็หวังว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผมตัดสินใจเปิด Hipster Barber Shop ทั้ง 9 สาขา ที่เปิดรอบนี้เป็นการลงทุนอีกครั้ง โดยที่เรายังไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ดีกว่าที่ไม่ได้ทำอะไรเลย สิ่งที่ต้องทำคือเราต้องป้องกันความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัย ไม่ให้มีการติดเชื้อเพิ่ม เรารู้ว่าร้านจะได้เปิดวันที่ 3 ตอน 4 ทุ่มของวันที่ 2 ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพิ่งประกาศ เช้ามาเราจะเปิดร้าน ผมต้องไปทุกสาขาเพื่อดูความพร้อม ก่อนหน้านี้ เราก็มีการวางตัวช่างแต่ละสาขา เพื่อให้พอกับความต้องการของลูกค้า สิ่งที่ต้องลงทุนเพื่อ 14 วันนี้ในเบื้องต้น คือต้องหาอุปกรณ์เพิ่ม เรื่องความสะอาด มีมาตรการออกมาเยอะ เราต้องทำให้ถูกต้องทุกอย่างถึงจะเปิดได้ ผมต้องหาซื้ออุปกรณ์หลายอย่าง สิ่งที่เราต้องเตรียม เช่น เจล แอลกอฮอล์ Face Shield เครื่องวัดอุณหภูมิ ต้องซื้อหลายเครื่อง ทุกสาขาต้องใช้ ลงทุนครั้งนี้หลายหมื่น แต่เป็นสิ่งที่จำเป็น ต้องใช้ไปอีกยาว ๆ จริง ๆ แล้วร้านตัดผม เป็นร้านที่ต้องสะอาดอยู่แล้ว สิ่งที่ซื้อมา สามารถเก็บไว้ได้ระยะยาว” ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อร้านต้องปิดอย่างกะทันหัน ทำให้ร้านได้รับผลกระทบทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ “บังลิค” ต้องต่อสู้มาอย่างหนัก กว่าจะถึงวันนี้ “สถานการณ์ที่เกิดขึ้นร้านทำผมกระทบหมดทุกร้าน หลายร้านปรึกษากันถึงเรื่องนี้ว่าจะทำยังไงกันต่อไป โดยเฉพาะช่างตัดผมในสายบาร์เบอร์อย่างเรา เพราะไม่มีสมาคมโดยเฉพาะ ต้องไปเข้ากับสมาคมช่างทำผมของประเทศไทย ซึ่งรวมบาร์เบอร์กับซาลอนไว้ด้วยกัน เราจึงเป็นได้แค่กระบอกเสียงเล็ก ๆ ที่บอกให้รู้ว่าได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ร้านผมมี 9 สาขา เมื่อร้านต้องปิดทันที ปัญหาจึงเกิดขึ้น ทั้งค่าเช่าร้าน การดูแลช่างในร้าน สำหรับผมปัญหาใหญ่มาก เพราะมีหลายสาขา สิ่งที่ทำในช่วงที่หยุดร้านคือการพูดคุยกับเจ้าของตึก เพื่อขอให้ช่วยเหลือเรื่องค่าเช่า ซึ่งผลสรุปคือมีที่ไม่เก็บค่าเช่า มีทั้งที่ลดราคาให้ และมีทั้งที่ไม่ลดเพราะเจ้าของตึกเขาไม่รู้สึกว่าเขามีผลกะทบจาก ไวรัสโควิด-19 สิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจคือรัฐบาลไม่ได้ออกกฎหมายมาคุ้มครองผู้ให้เช่า เราต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง สำหรับผมลองคิดง่าย ๆ ค่าเช่าร้านแต่ละร้านสองหมื่นกว่า ลองคิดแค่ร้านละสองหมื่นบาท เก้าร้านคูณเข้าไปค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือแสนแปด ที่เป็นค่าใช้จ่ายต่อเดือน ผมต้องคิดหนักในเรื่องนี้ เพราะการย้ายร้านก็ไม่คุ้มมันมีแต่เสียกับเสีย และการที่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของตกลดราคาค่าเช่าให้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องดี แต่ส่วนที่เหลือก็ยังคงเป็นภาระทั้งหมด เพราะว่างานทุกอย่างหยุดลง เราไม่มีรายได้เข้ามาเลย เรื่องสำคัญเรื่องที่สองคือ เรื่องปากท้องของช่างในร้าน จริง ๆ เรื่องนี้ เป็นเรื่องแรกที่ต้องเป็นห่วงด้วยซ้ำ เพราะทุกคนต่างมีภาระ มีค่าใช้จ่าย ต้องดูแลสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นผมต้องจ่ายเงินเยียวยาลูกน้อง ลูกน้องผม 34 คน ต้องดูแลทุกคน ร้านผมเป็นร้านที่อยู่ในลำดับต้น ๆ ที่มีสาขาเยอะ มีลูกน้องเยอะที่สุดแล้วเวลานี้ เราต้องรับภาระทุกอย่างทั้งหมดไว้” การเกิดไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้ธุรกิจทุกอย่างหยุดชะงักลง แต่ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจ “บังลิค” ไม่ได้มองปัญหาอย่างจมอยู่กับปัญหา แต่มองสถานการณ์ทุกอย่าง อย่างเข้าใจและหาทางแก้ “ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ผมต้องแบกรับภาระที่หนักหนานี้ หลายคนบอกให้ผมปล่อย แต่ด้วยเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่แล้วก็ไม่มีใครเอา เขาเอาร้านไปก็เปิดไม่ได้อยู่ดี หลายคนให้กำลังใจมากบอกบังอย่ายอมแพ้ ช่างทั่วประเทศรู้หมด เพราะทุกคนต่างก็มีปัญหา แต่ทุกคนไม่หนักเท่าที่ผมหนัก คนให้กำลังใจมาก ผมต้องทบทวนหลายๆอย่าง ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ผมคิดว่าการที่เรามีร้านแล้วเกิดปัญหา ธุรกิจพังก็ต้องเสียร้านไปเลย ถ้าเซ้งไปแล้วเริ่มมาเริ่มต้นใหม่ในช่วงเวลาอย่างนี้ มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้นสิ่งที่ผมจะต้องทำ ผมต้องพยายามอย่างหนัก ต้องพยายามที่จะไม่ให้เสียไปแม้แต่ร้านเดียว ต้องพยายามที่จะทำให้เราไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ ผมเชื่อว่าเมื่อหมดโรค ก็ยืนได้ใหม่ ไม่ต้องเริ่มใหม่ หรือถ้าใครเริ่มต้นได้ใหม่ ในช่วงเวลาอย่างนี้ได้คุณสุดยอดมาก" "ร้าน Hipster Barber Shop สำหรับผม ผมคิดว่าผมเดินมาไกลแล้ว แค่รักษาในช่วงนี้ เพื่อที่จะเก็บไว้ให้ได้ทุกสาขา สิ่งที่ต้องทำคือหาเงิน คุยกับเจ้าของตึกให้เข้าใจ ที่ผ่านมา 2-3 ปี ผมไม่เคยจ่ายค่าเช่าล่าช้า เมื่อถึงวันที่เราเกิดปัญหา จึงต่อรองได้ง่าย จุนเจือลูกน้องให้ได้ กระทั่งผ่านมาถึงวันนี้ เป็นวันแรกที่เปิด ผมดีใจที่รักษาทุกอย่างมาได้ รัฐบาลประกาศทดลอง 14 วัน ประเมินเป็นไตรมาส ถ้าไวรัสติดต่อ ก็ปิดเพิ่ม ต้องติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา และหน้าที่เรา หน้าที่ช่างทุกคน คือป้องกันทุกวันให้ดีที่สุด ก่อนเปิดผมทำเรื่องกับเขตกทม.เรียบร้อย เราทำตามมาตรการป้องกันทุกอย่างที่รัฐบาลให้ทำ ร้านผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้” วันนี้ร้าน Hipster Barber Shop เปิดให้บริการอีกครั้ง “บังลิค” รู้สึกดีใจมาก ที่ผ่านวิกฤตมาได้ ทั้งจากกำลังใจที่ตัวเองมีอย่างเต็มเปี่ยม และกำลังใจที่คนรอบข้างให้มา “ผมเป็นคนที่คิดเสมอว่า หนทางขึ้นภูเขาไม่ได้มีทางเดียว ยังมีทางหลายทาง การแก้ปัญหาก็เช่นกัน สิ่งที่ผมต้องขอบคุณมากๆ คือเพื่อนจะมาช่วยในเวลานี้กันหมดเลย หลายคนทักมาเพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเงิน แต่ผมปฏิเสธเพื่อนทั้งหมดเลย เพราะผมมีบัตรเครดิต ผมพึ่งตัวเองก่อน ผมเชื่อว่าไหว แค่ประคอง รอเวลาเปิดร้านได้ ทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม และวันนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี ลูกน้องทุกคนพร้อม วันนี้กลับมาอย่างมีกำลังใจ เราผ่านอุปสรรคมาได้ด้วยกัน ผมมีความเชื่อว่าถ้าคิดลบก็ขาดทุนตั้งแต่เริ่ม ดังนั้นผมจะไม่คิดในสิ่งที่ไม่ดี ตั้งสติคิดตลอดเวลา ทำให้เรารู้ว่าจะแก้วิกฤตยังไง ทำให้อยู่ได้...ตอนนี้ผมพร้อมมากกับ 14 วันนี้” เราทุกคนต่างหวังว่า ไวรัสโควิด-19 จะหยุดการแพร่ระบาด และไม่ส่งผลร้ายต่อทั้งชีวิตของผู้คน และธุรกิจทุกอย่างก็ก้าวไปได้อย่างที่ควรจะเป็น “บังลิค ฮิปสเตอร์” แห่งร้าน “Hipster Barber Shop” เป็นคนหนึ่งที่พร้อมจะต่อสู้กับโรคร้ายนี้ไปพร้อม ๆ กับทุกคน และเราก็หวังว่า 14 วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่โลกจะกลับมาเหมือนเดิม... ด้านหน้าร้าน ที่ลูกค้าต้องนั่งรอกันอย่างห่าง ๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ร้าน “Hipster Barber Shop” 9 สาขาด้วยกันคือ สาขา 1 หนองจอก ตรงข้ามโรงพัก หนองจอก สาขา 2 ตลาดมีนบุรี หน้าอู่รถเมล์ในตลาดมีนบุรี สาขา 3 นิคมลาดกระบัง ปากซอยฉลองกรุง 28 สาขา 4 ถนนฉลองกรุง 29 นิคมอุตสาหกรรมลาดกะบัง สาขา 5 เคหะร่มเกล้า ปากซอยเคหะร่มเกล้า 17 สาขา 6 สาขา ลาดกระบัง1/12 หน้าโรงแรมโกเด้นเจต สาขา 7 ตลาดบวร เคหะร่มเกล้า สาขา 8 วัดปากบึง เป็นโรงเรียนสอย ที่รับตัดผมลูกค้าด้วย สาขา9 แยกเส้งโห จังหวัดภูเก็ต “บังลิค ฮิปสเตอร์” รับสอนตัดผมด้วย สอนจนเป็นช่างตัดผมมืออาชีพได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ โทร. 065-8251459 / 085-825-2820 Facebook : Hipster Barber Shop Thailand Instagram : @hipster_barbershop_thailand ขอบคุณภาพประกอบจาก :: บังลิค ฮิปสเตอร์