พุทธิพงษ์ หนุนเอ็นที ใช้ 5G เชื่อมข้อมูลผู้ป่วยให้รพ.ทั่วประเทศสู้โควิด
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กระทรวงดีอีเอส ได้จัดทำดาต้า HIE Alpha Test ระบบสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผู้เข้ารับการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาลต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาสนับสนุน อาทิ 5G ของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือเอ็นที เชื่องโยงข้อมูลกับโรงพยาบาล ขณะนี้มีโรงพยาบาลเข้าร่วมทั่วประเทศแล้ว 140 แห่ง ซึ่งลักษณะการทำงานจะเป็นการรวมฐานข้อมูลผู้ป่วย มาจัดเก็บไว้ในระบบคลาวด์ภาครัฐ (จีดีซีซี) ของเอ็นทีภายใต้รูปแบบเฮลธ์แคร์ ผ่านระบบ 5G เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งาน ทั้งสำหรับโรงพยาบาลและผู้ป่วย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาทิ รพ.ศิริราช รพ.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รพ.ราชวิถี รพ.สมุทรปราการ และรพ.ประจำจังหวัดต่างๆ
“ระบบดังกล่าว จะจัดเก็บข้อมูลของผู้ป่วยไว้บนคลาวด์ เช่น 1.ข้อมูลทั่วไป 2.การแพ้ยา 3.โรควินิจฉัย 4.การจ่ายยา 5.วัคซีน 6.ประวัติพัฒนาการ 7.รายงานผลการตรวจ และ 8.ผลตรวจทางห้องปฎิบัติการ เป็นต้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากรพ. ต่างๆ เป็นอย่างดี โดยโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเห็นตรงกันว่าน่าจะเกิดขึ้นนานแล้ว กระทรวงดีอีเอส ทำงานร่วมกันกับโรงพยาบาลเป็นเวลาเกือบปี จนตอนนี้มี รพ.เข้าร่วมโครงการเรื่อยๆ” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้เร่งดำเนินการมาตลอด ซึ่งกระทรวงดีอีเอส เดินหน้าโครงการมาพอสมควรแล้ว จึงมองว่า โรงพยาบาลไหนพร้อมเชื่อมโยงข้อมูลคนไข้ก็เข้าร่วมโครงการก่อน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นถึงความสำคัญของโครงการ อีกทั้งประชาชนต้องใช้ประโยชน์เต็มที่ ไม่ต้องเสียเวลาทำประวัติคนไข้ใหม่ ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ของแต่ละโรงพยาบาลก็สามารถเข้าไปดูข้อมูลคนไข้ได้ทันที ต่อเมื่อคนไข้ยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนตัวและประวัติการรักษา ลดขั้นตอนการรักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี เพราะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นขยายวงกว้างไปหลายจังหวัด
“เชื่อว่าการเชื่องโยงข้อมูลคนไข้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อีกทั้งในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคลยืนยันว่าไม่ได้ไปละเมิดสิทธิใครแน่นอน เพราะปกติประชาชนไปโรงพยาบาลจะต้องลงทะเบียน กรอกประวัติคนไข้ ซึ่งโครงการนี้จะทำให้ผู้ป่วยที่ไปโรงพยาบาลไม่ต้องมากรอกประวัติใหม่ และด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เชื่อว่าทุกรพ.มีระบบที่ดีรองรับหมดแล้ว ถ้าวันนี้ไม่ทำอนาคตต้องทำอยู่ดี” นายพุทธิพงษ์ กล่าว