ฝนตกหนัก ฟ้าคะนอง หญิงวัย 53 ปีห่วงวัว ไปต้อนเข้าคอก ฟ้าผ่าเปรี้ยงเสียชีวิต วัว 9 ตัวยืนเฝ้า
ฝนตกหนักป้า 53 ปี ชาว อ.ลำปลายมาศ บุรีรัมย์ ห่วงวัว ตากฝนออกไปต้อนเข้าคอก เกิดฟ้าผ่าล้มทั้งยืนเสียชีวิตคาที่ ชาวบ้านเผยวัว 9 ตัวเฝ้าศพไม่ห่าง เชื่อผูกพัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ (16 พฤษภาคม) ได้รับแจ้งจากชาวบ้านตะไก้ หมู่ 2 ต.โคกสะอาด อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เกิดเหตุชาวบ้านถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตกลางทุ่งนาขณะเลี้ยงวัวอยู่ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อไปถึงมีรถหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุด ต.เมืองแฝก กำลังนำร่างนางวนิดา สหัสรัมย์ อายุ 53 ปี ผู้เสียชีวิต ไปส่งที่บ้านพัก เพื่อให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติ
สอบถามนางทองใบ เจริญสุข อายุ 52 ปี หลานผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนกับผู้ตายออกไปทุ่งนา ขณะนั้นฟ้าเริ่มมืดครึ้ม ตอนนั้นตนกับผู้ตายอยู่ในกระท่อมนา หลังจากฝนเริ่มริน ผู้ตายหันมาบอกตนว่าจะไปย้ายวัวที่ผูกไว้กลางทุ่งนาเพื่อกลับเข้าคอก จากนั้นฝนตกลงมาอย่างหนัก ฟ้ามืด มองไม่เห็นกัน สักพักใหญ่ๆ ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงดังสนั่น เมื่อฝนเริ่มหยุดตกเห็นวัวที่ผู้ตายเลี้ยงไว้ จำนวน 9 ตัว รวมตัวอยู่เป็นกลุ่มที่เดียว รู้สึกผิดสังเกตจึงเดินไปดู พบว่าวัวทั้งหมดยืนเฝ้าศพเจ้าของที่โดนฟ้าผ่า
ด้านนางทองทูล เจริญสุข อายุ 48 ปี หลานสาวผู้ตาย เล่าว่าว่า ตนเองแปลกใจมากขณะเกิดเหตุฝนตกหนักและฟ้าคะนอง วัวที่เลี้ยงไว้ทั้งหมด 9 ตัว อยู่รวมกันเป็นฝูง ฟ้าไม่ผ่าวัว แต่ฟ้ามาผ่าเจ้าของ
ขณะที่นายสะการ มุ่งดี อายุ 50 ปี สามีผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ตักเตือนภรรยามาตลอดว่าขณะฝนตกห้ามเอาวัวกลับเข้าคอก รออยู่ในกระท่อมให้ฝนหยุดตกก่อน แต่ภรรยาไม่ฟัง ส่วนสาเหตุที่ฟ้าผ่าเมียของตน ส่วนตัวคาดว่าน่าจะเป็นต่างหูเงินที่เมียใส่ประจำ อาจจะเป็นสื่อล่อสายฟ้า เพราะขณะเกิดเหตุเมียไม่มีพกโทรศัพท์ หรือใส่สร้อยแหวนอย่างอื่นที่เป็นสื่อล่อสายฟ้า ประกอบกับต่างหูเงินข้างซ้ายได้หลุดหายไป และศพเมียมีเลือดไหลออกหูด้วย จึงอยากฝากเตือนให้เป็นอุทาหรณ์ สำหรับคนเลี้ยงวัว หรือสัตว์เลี้ยงเวลาฝนตกไม่ต้องรีบต้อนวัวเข้าคอก ให้รอฝนหยุดตกก่อน เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียเหมือนกับครอบครัวของตน