จับตา 5 หุ้นเข้า-ออก SET 50 ตามปรับเกณฑ์ใหม่ แก้ฟรีโฟลทต่ำ

ทันหุ้น-บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่าการที่ตลาดหลักทรัพย์เตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดทำดัชนีใหม่ เพื่อแก้ปัญหาหลักทรัพย์ที่มีฟรีโฟลทต่ำ โดยจะปรับหลักเกณฑ์ในการคำนวณดัชนีจากเดิมที่ใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดในการคำนวณ เป็นการใช้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่ปรับด้วยฟรีโฟลท เพื่อให้ดัชนีสะท้อนภาพตลาดได้ดีขึ้น และเป็นไปในแนวทางเดียวกับสากล
ฝ่ายวิจัยคาดการปรับปรุงเกณฑ์ดังกล่าวจะกระทบต่อราคาหุ้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งเชิงบวกและลบ แต่น้อยกว่าที่คาดครั้งก่อน เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จะใช้การปรับน้ำหนักเพียง 50% ของที่เกิดขึ้นจริง จุดประสงค์เพื่อลดผลกระทบจากการ Rebalance ของกองทุน Passive Fund โดยทีมกลยุทธ์ได้มีการคำนวณน้ำหนักหุ้นในดัชนี SET50, SET100และ SETHD ใหม่ ตามหลักเกณฑ์ล่าสุดจากข้อมูล Free Float ณ ปัจจุบัน อ้างอิงราคาปิดของหุ้นรายตัววันที่ 19 มี.ค. 2564
สำหรับ SET50 หุ้น 5 อันดับแรก ที่มีแนวโน้มถูกเพิ่มน้ำหนัก ได้แก่ BBL เพิ่มน้ำหนัก 1.14% คิดเป็นเม็ดเงินไหลเข้า 586.93 ล้านบาท, SCB เพิ่มนำหนัก 1.04% คิดเป็นเงินไหลเข้า 533.81 ล้านบาท KBANK เพิ่มขึ้น 0.90% คิดเป็นเงินไหลเข้า 464.75 ล้านบาท SCC เพิ่มขึ้น 0.83% คิดเป็นเงินไหลเข้า 425.27 ล้านบาท และหุ้น BDMS เพิ่มขึ้น 0.58% คิดเป็นเงินไหลเเข้า 300.97 ล้านบาท
ส่วนหุ้นที่คาดว่าถูกลดน้ำหนักลง 5 อันดับแรก ใน SET50 ได้แก่ AOT คาดลดลง 1.42% เงินไหลออก 732.63 ล้านบาท, DELTA ลดลง 0.86% เงินไหลออก 442.60 ล้านบาท, OR ลดลง 0.74% เงินไหลออก 381.82 ล้านบาท, GULF ลดลง 0.69% เงินไหลออก 357.22 ล้านบาท และ PTTEP ลดลง 0.46% เงินไหลออก 235.34 ล้านบาท
โดยมองว่าโครงสร้างของหุ้นที่ขับเคลื่อนดัชนี SET50 มีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้มีสัดส่วนสูงที่สุดในดัชนีเหมือนเดิม แต่จะถูกลดความน่าสนใจลงจากน้ำหนักต่อดัชนีที่ถูกปรับลดลงราว 2.10% ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีน้ำหนักมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของดัชนี จะมีความน่าสนใจมากขึ้น จากการถูกปรับน้ำหนักขึ้น 3.13%