รีเซต

ผลหารือนายกฯ ไทย - กัมพูชา ยืนยันถอนอาวุธออกจากพื้นที่ตามไทม์ไลน์

ผลหารือนายกฯ ไทย - กัมพูชา ยืนยันถอนอาวุธออกจากพื้นที่ตามไทม์ไลน์
TNN ช่อง16
3 พฤศจิกายน 2568 ( 16:12 )
42

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ, พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม, พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย, พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก, พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ, พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ และพล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าจากผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรี และ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา (Joint Declaration) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (JBC และ GBC) ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การแถลงข่าววันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจกับพี่น้องประชาชน เหตุการณ์ชายแดน โดยย้อนไปที่ผ่านมา เริ่มต้นตั้งแต่ กัมพูชาเข้ามาขุดคูเลต จากนั้นในช่วงเดือนกรกฎาคม ก็เป็นช่วงที่ไทยได้ความสูญเสีย คือทหารเหยียบกับระเบิดในบริเวณพื้นที่ตรวจการของฝั่งไทย ทำให้สูญเสียขา ทั้งสิ้น 3 ราย และระเบิดลูกแรกของกัมพูชาตกลงฝั่งไทยที่ปั๊มน้ำมัน ในจังหวัดศรีสะเกษ นำมาซึ่งความสูญเสีย และเราคิดว่าความสูญเสียนี้หนักหนาสาหัสเหลือเกินสำหรับคนไทย เราสูญเสียชีวิตพลเรือน 8 คน และมีเด็กอายุ 8 ขวบด้วย เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามีความโกรธแค้นในความสูญเสีย และความเสียใจ  

และหลังจากนั้นมีการโต้ตอบกัน 4 วัน 5 คืน สูญเสียทหารนับ 10 ราย บาดเจ็บ 666 คน ซึ่งเหตุการณ์นั้น ดำเนินการมาจนกระทั่งถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ได้มีการลงข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรักษาการนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น กับกัมพูชาที่มามาเลเซีย โดยมีการหยุดยิงทั้งสองประเทศ และเริ่มมีผู้สังเกตการณ์ คือ สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ดังนั้น การดำเนินการใดใดที่จะเกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา จะเป็นเรื่องที่ถูกสังคมโลกจับตามอง สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือไทย และกัมพูชามีพื้นที่ติดกัน เราไม่ได้ลืมความเจ็บแค้น แต่วันนี้เรากำลังพูดถึงเมื่อมีแผ่นดินที่ติดกัน และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงนี้ได้จะเดินหน้าอย่างไร

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า แนวทางการปฏิบัติต่อกันอย่างไร ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งเรายืนยันใน 4 ข้อหลัก และวันนี้มีการเซ็นเอกสารเพิ่มเติมคือ Joint Declaration ว่าไทยและกัมพูชาจะดำเนินการอย่างไรต่อกัน พร้อมย้ำว่า ประเทศไม่สามารถเดินหน้าได้ด้วยข่าวลือ แต่ประเทศจะเดินหน้าด้วยข้อเท็จจริง

นายสิริพงศ์ ยืนยันว่า มาตรการการดำเนินการภายใต้รัฐบาล ทางกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ มีการประสานงานพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวทางกันอย่างใกล้ชิดตลอด

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฎิบัติตามตามเอกสารแถลงถ้อยแถลงผลการผลการพบปะหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทย และ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 โดยจะมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นประธานคณะกรรมการ มีหน้าที่ในการติดตามประเมินผล ทั้งการดำเนินการของทั้ง2 ฝ่าย และมีหน้าที่อำนวยการคณะสังเกตการณ์

นายสิริพงศ์ กล่าวสรุปด้วยว่า “รัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ จะนำความสงบสุขกลับมาคืนสู่คนไทยทุกคนในประเทศนี้ โดยยึดหลักที่เราจะไม่เสียดินแดน ไม่เสียอธิปไตย แม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียว ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้เลยว่า ตั้งแต่นายอนุทิน มาเป็นนายกรัฐมนตรี เราไม่มีดินแดนไทยไหน แม้แต่ตารางเซ็นติเมตรเดียวที่เราสูญเสียให้กัมพูชา เราไม่มีอวัยวะชิ้นไหน ของทหารผู้เสียสละที่จะเสียไปจากสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา เราไม่ได้เห็นเลือดของทหารเหล่านั้น หยดลงบนผืนดินไทย และที่สำคัญที่สุดเราไม่เห็นเลือดของประชาชนที่ต้องไหลลงผืนดินไทยตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้นแนวทางต่อไป รัฐบาลมีความตั้งใจอยากจะทำให้ทุกคนเป็นปกติสุข ภายใต้เงื่อนไขรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของไทย” 

ส่วนการเปิดด่านยืนยันนโยบายรัฐบาลชัดเจนมาก ยังไม่มีการพูดเรื่องเปิดด่าน ซึ่งการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาจะเป็นสิ่งสุดท้าย ที่พิจารณา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไขในข้อแถลง 4 ข้อ และขอให้ท่านทุกท่านมั่นใจว่า รัฐบาลไทยไม่ย่อหย่อน และไม่มีทางที่จะย่อหย่อนต่อกัมพูชาอย่างแน่นอน

โฆษกรัฐบาลพูดถึงประเด็นเรื่อง 18 ทางกัมพูชา ซึ่งยืนยันว่า กระบวนการเหล่านี้จะเริ่มต้นก็ต่อเมื่อกัมพูชาได้ทำตามข้อตกลง 4 ข้อทั้งหมด ซึ่งขณะนี้นี้อยู่ระหว่างการประเมินว่า กัมพูชาได้ทำตามข้อตกลง 4 ข้อที่ไทยเรียกร้องหรือไม่

แม้ว่า 1 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลไม่ได้เสียดินแดน แต่ความรู้สึกของประชาชนที่เสียประสาทตาควาย, ประสาทคนา และเนิน 677 รัฐบาลจะเอาอะไรไปเจรจาไม่ให้ไทยเสียประโยชน์โฆษกรัฐบาล ระบุว่า เรื่องความรุนแรงได้จบไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม รัฐบาลไม่สามารถที่จะไปใช้กำลังรุกรานก่อนได้ แต่แนวทางที่จะทำก็คือ สันติวิธีการเจรจา ในเรื่องของการปักปันเขตแดน พูดคุยข้อพิพาทที่เป็นปัญหา ซึ่งต้องเป็นเรื่องที่ต้องมาพูดคุยกันในระดับทวิภาคีรวม ซึ่งหมายถึงทุกพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีกรอบเวลาในระยะสั้น ซึ่งต้องดำเนินการตาม 4 ข้อตกลงก่อน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง