สาวไทยในยูเครนเล่านาทีอพยพ ไม่ทันข้ามคืน ตึกที่พักโดนยิงถล่ม เผย 12 คนใน 'คาร์คีฟ' ยังออกไม่ได้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ ศรีดาวเรือง จัดหางาน จ.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กานต์ ตั้งวิจิตร ผกก.สภ.บ้านผือ และเจ้าหน้าที่จัดหางาน จ.อุดรธานี เดินทางมาที่บ้านนายชลแดน ไชยคำ อายุ 43 ปี ใน ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นสามีนางสุชาวดี หรือขาว หลิน อายุ 51 ปี หมอนวดแผนไทย “ออร่าสปา” เมืองคาร์คีฟ ประเทศยูเครน
นายชลแดนระบุว่า ได้วิดีโอคอลคุยกับภรรยาทุกวัน วันละ 2-3 ครั้งตั้งแต่เริ่มมีข่าวความขัดแย้งรัสเซียกับยูเครน จนมาเกิดสงครามขึ้นจริงๆ
ต่อมา นายชลแดนได้ทดลองวิดีโอคอลไปหาภรยา ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 05.30 น. (เวลาท้องถิ่นยูเครน) นางสุชาวดีรับโทรศัพท์ขณะพักอยู่ในห้องเช่าภายในตัวเมือง ซึ่งร้านสปาเช่าให้กับพนักงาน 5 คน ประกอบด้วย ชาวกำแพงเพชร 1 คน, เชียงใหม่ 2 คน, ขอนแก่น 1 คน และอุดรธานี 1 คน และยังมีแรงงานไทยอยู่ในอาคารเดียวกันอีก
นางสุชาวดีเปิดเผยว่า พักอยู่กับพนักงานคนไทย รวม 5 คน ทุกคนปลอดภัย ไม่ได้ออกไปข้างนอกหลายวันแล้ว ทุกคนกลัวและอยากกลับบ้าน ช่วงทหารรัสเซียจะบุกเข้าเมืองคาร์คีฟ มีการยิงต่อสู้ด้วยจรวดและปืนใหญ่ ตอนนี้ยึดเมืองได้และทหารเคลื่อนผ่านไปแล้ว จะมีเสียงปืนดังขึ้นบ้างบางครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นการชกต่อยกันกับทหารที่ยังไม่ยอม
“สถานทูตไทยติดต่อมาแล้ว แจ้งให้พวกเราเดินทางไป ซึ่งศูนย์การช่วยเหลือแรงงานไทยที่เมืองลวิฟ ในประเทศยูเครน อยู่ห่างจากเมืองคาร์คีฟราว 1,000 กม. ก่อนจะเดินทางต่อไปประเทศโปแลนด์ แผนที่จะเดินทางไปคือเหมารถ แต่เรายังหารถไปไม่ได้ อีกทางหนึ่งคือเดินทางด้วยรถไฟ แล้วไปต่อรถโดยสารอีกช่วง คาดว่าถ้าเดินทางเองจะไปด้วยรถไฟ แต่ก็ต้องรอช่วงที่ปลอดภัยก่อน หรือรอให้ทางการไทย หรือคนมารับ” นางสุชาวดีระบุ
ด้านนายชลแดนกล่าวว่า มีลูกสาวกับภรรยา 1 คน อายุ 16 ปี ภรรยาเคยไปทำงานที่ฮ่องกงและไต้หวัน สำหรับยูเครนไปทำงานได้ 2 ปี เพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อ ส.ค.64 ทั้งตัวเองและลูกห่วงภรรยามาก ต้องการให้ภรรยากลับมา เพราะที่นั่นไม่ปลอดภัยแล้ว ตอนนี้แม้จะปลอดภัยในที่พัก แต่อาหารก็เริ่มจะหายากขึ้น ได้แต่โทรศัพท์ไปให้กำลังใจ รวมทั้งสวดมนต์ไหว้พระที่บ้านขอให้ทุกคนปลอดภัย และตั้งใจจะไปไหว้ขอพร “หลวงพ่อนาค” พระคู่บ้านคู่เมือง อ.บ้านผือ
ต่อมา ว่าที่ ร.ท.อนุเทพ พร้อมคณะเดินทางไปที่บ้านพักนางรำไพ ไชยรา อายุ 41 ปี แรงงานไทยในกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ภายใน ต.น้ำพ่น อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบกับ น.ส.อาร์ท ไชยรา อายุ 21 ปี บุตรสาว และนางปี ไชยรา อายุ 90 ปี โดยบุตรสาวขอไม่ให้บอกยายว่า แม่อยู่ที่ยูเครน ซึ่งเกิดภาวะสงคราม จัดหางาน จ.อุดรธานี จึงแจ้งกับยายปีว่าเป็นเจ้าหน้าที่มาเยี่ยมประชาชนตามปกติ
น.ส.อาร์ทเปิดเผยว่า แม่สื่อสารกับชาวต่างชาติได้ดี เคยไปทำงานและเที่ยวหลายประเทศ ส่วนตนเรียนและทำงานในเมือง โดยแม่เดินทางไปยูเครนได้ 5 เดือน ก่อนไปแม่ก็ไม่ได้บอก มารู้ตอนแม่โทรบอกให้ลาอออก กลับมาอยู่บ้านดูแลยาย จึงกลับมาทำงานโรงงานใกล้บ้าน ไปเรียนหนังสือสัปดาห์ละ 1 วัน โดยแม่เอาที่นาไปกู้เงินเพื่อเดินทางไป แม่โทรมาแล้วบอกว่าปลอดภัย เดินทางถึงโปแลนด์แล้ว
น.ส.อาร์ทได้วิดีโอคลอคุยกับแม่ โดยนางรำไพกล่าวว่า เจ้านายดีมาก ขับรถไปรับเอง ออกมาจากตึกที่พักตอน 4 โมงเย็น ซึ่งมีคนไทยพักอยู่ชั้น 15 และชั้น 20 รวม 18 คน เดินทางออกมายังไม่ข้ามคืน ตึกที่เคยพักก็ถูกยิงใส่ ตรงชั้นที่เราพักอยู่ ทั้งนี้ เจ้านายพามาส่งถึงที่ โดยพบกับเจ้าหน้าที่ไทย จากนั้นได้เดินทางมาถึงโปแลนด์ตอนตี 3 ที่ผ่านมา ทุกคนปลอดภัยแล้ว แต่ห่วงคนที่อยู่ในยูเครน เพราะที่นั่นยังไม่ปลอดภัย
ว่าที่ ร.ท.อนุเทพเปิดเผยว่า วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ได้มอบหมายให้ตนเดินทางมามอบความห่วงใยและให้กำลังใจกับญาติแรงงานในประเทศยูเครน เป็นผู้หญิงทำงานนวดและสปา 7 คน ซึ่งเดินทางไปถูกต้องตามกฎหมาย มีภูมิลำเนาที่ อ.บ้านดุง 2 คน อ.บ้านผือ 1 คน อ.หนองวัวซอ 1 คน อ.กุดจับ 1 คน อ.ศรีธาตุ 1 คน และ อ.กุมภวาปี 1 คน ทราบว่าส่วนหนึ่งได้อพยพไปโปแลนด์แล้ว และมีบางส่วนอยู่ที่ลวิฟ
“มีบางส่วนที่เดินทางออกจากเมืองที่ทำงานอยู่ไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่ปลอดภัย กระทรวงการต่างประเทศกำลังหาทางพาแรงงานไทยทั้งหมดกลับเร็วที่สุด คนไทยยังปลอดภัยทุกคน ส่วนกลางทราบแล้วว่าคนไทยอยู่จุดใดบ้าง จึงให้จัดหางานแต่ละจังหวัดลงพื้นที่แจ้งข่าวให้รับญาติรับทราบ เพื่อให้ญาติคลายความกังวลใจ ส่วนแรงงานชาวไทยบางส่วนที่ยังติค้างอยู่ที่เมืองคาร์คีฟ 12 คน ก็กำลังเร่งหาหนทางเอาแรงงานไทยออกมา” ว่าที่ ร.ท.อนุเทพกล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง