BRIเป้าโอนโตสนั่น90% เปิด12โครงการอัพยอด
#BRI #ทันหุ้น – BRI ตั้งเป้ายอดโอนปี 2565 โต 90% ที่ 7,250 ล้านบาท มียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบาท ลุยเปิดโครงการใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.34 หมื่นล้านบาท พร้อมรักษามาร์จิ้นในระดับ 31-32% และอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 16% ขณะที่ 2 เดือนแรกทำยอดขายแล้ว 1.5 พันล้านบาท
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้รวมในปี 2565 ที่ 7,250.0 ล้านบาท เติบโต 90.0% จากปีก่อน และยอดขายที่ 11,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 31.4% จากปีก่อน พร้อมจะรักษาอัตรากำรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 31-32% และมีอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 16% ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ “Growth Together เติบโตต่อเนื่องไปด้วย”
ทั้งการเติบโตจากการกระจายทำเลสู่จังหวัดหัวเมืองที่มีศักยภาพ เช่นขอนแก่น อุดรธานี อยุธยา ระยอง เพิ่มขึ้น ขณะที่ความร่วมมือกับพันธมิตรพัฒนาโครงการ ความร่วมมือกับซัพพลายเออร์และการให้พนักงานมีส่วนร่วมเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท
*เปิด 12 โครงการดันยอด
อย่างไรก็ดี บริษัทคาดการณ์ภาพรวมธุรกิจอสังหา แนวราบปีนี้จะมียอดโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น 10-20% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และได้รับผลบวกจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV (Loan to Value) ให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเต็ม 100% ของมูลค่าหลักประกัน และมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ด้านการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ วางแผนเปิดใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 13,400 ล้านบาท จะรุกขยายโครงการทั้งใน โดยไตรมาส 1/2565 เปิดโครงการแรกในย่านราชพฤกษ์ – นครอินทร์ไปแล้ว 1 โครงการ และไตรมาส 2/2565 คาดจะเปิดโครงการบริทาเนีย อมตะ - พานทอง จังหวัดชลบุรี อีก 1 โครงการ และเปิดตัวอีก 10 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 นอกจากนี้บริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างเปิดขายอีก 20 โครงการ มูลค่าประมาณ 23,878 ล้านบาท ที่จะสร้างยอดขายและรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ 2 เดือนแรกบริษัททำยอดขายแล้วกว่า 1,500 ล้านบาท
*ภาพรวมปี 2565 สดใส
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุถึง BRI ว่า ภาพรวมปี 2565 สดใส ประเมินกำไรขยายตัวโดดเด่น +86% Y-Y เป็น 1.1 พันล้านบาท มีแรงหนุนหลักจากยอดโอนเพิ่มขึ้น 85% เป็น 7 พันล้านบาท ตามการรับรู้รายได้จากโครงการเดิมต่อเนื่อง และแผนรุกเปิดตัวโครงการใหม่ทาสถิติสูงสุดใหม่ 12 โครงการ มูลค่ารวม 1.34 หมื่นล้านบาท (+73% Y-Y) ท่ามกลางปัจจัยบวกจากการผ่อนคลาย LTV และกำลังซื้อที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ
คาดหนุนโครงการใหม่จะได้รับผลตอบรับดีจากผู้บริโภคต่อเนื่อง สอดคล้องกับบริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโต 31% Y-Y ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่อุปสงค์ในตลาดแนวราบที่แข็งแกร่ง คาดช่วยให้ผ่อนคลายการทำโปรโมชั่น และสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ระดับที่ดี
*ผลงานโตเด่น-ยิลด์สูง 4.4%
คงราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 13 บาท (อิง PER 10x) แนะนำซื้อ จากความน่าสนใจ 1.Growth Stock สะท้อนอัตราการเติบโตผลประกอบการปี 2565 เด่นสุดในกลุ่มอสังหา คาด +86% Y-Y เทียบกับกลุ่มฯที่ +14% Y-Y พร้อมระดับ ROE สูงสุดที่ 30% เทียบค่าเฉลี่ยกลุ่ม 12% 2.ขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์และจุดแข็งของกลุ่ม ORI โดยเฉพาะการปรับตัวได้เร็วตอบรับสภาพแวดล้อมและเมกะเทรนด์ที่เป็นบวกต่อการเติบโตอย่างมั่นคงและได้เปรียบคู่แข่ง
3.มี Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการจากการพัฒนาโครงการรูปแบบ JV คาดเห็นความร่วมมือกับพันธมิตรจำนวน 2 โครงการในปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนเพิ่มในการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุนและค่าบริหารโครงการ รวมถึงคาดการณ์ยอดโอนปีนี้ 7 พันล้านบาท ต่ำกว่าเป้าของบริษัทที่ 7.25 พันล้านบาท 4.ปัจจุบันหุ้นเทรดบน P/E ปี 2565 ที่ 9.0 เท่า เทียบกับคาดการณ์กำไร 2 ปีข้างหน้า คิดเป็น PEG เพียง 0.2 เท่า พร้อมคาดผลตอบแทนปันผลปีนี้ 4.4%