กล้วยด่างเป็นเหตุ ญาติข้างบ้าน หวังเอาชีวิตยกครัว บุกยิงผัวเมียดับ ลูกชายเจ็บ ตร.ล้อมจับ

นครปฐม กล้วยด่างเป็นเหตุ ญาติข้างบ้าน หวังเอาชีวิตยกครอบครัว บุกยิงผัวเมียดับ ลูกชายเจ็บ ตร.ล้อมจับ เผยปมก่อเหตุต้นกล้วยด่างราคา 2 แสน

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 2564 พ.ต.ท.วีรวิทย์ ลภัสจารุสกุล สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐมได้รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 2 ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม หลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม กองพิสูจน์หลักฐาน 7 แพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐม และมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบร่างนายคุณากรณ์ อายุ 57 ปี ถูกยิงเข้าตามลำตัวหลายนัด ใกล้กันพบร่างนางสุกัลยา อายุ 48 ปี ภรรยาของนายคุณากรณ์ นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่เบ้าตา พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นายคณากร อายุ 25 ปี ลูกชายของนายคุณากรณ์และนางสุกัลยา ถูกยิงเข้าที่ขาได้รับบาดเจ็บถูกนำส่งรพ.นครปฐม

ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายสมเจตน์ อายุ 35 ปี เป็นอดีตผู้สมัครสท.เมืองนครปฐม หลังเกิดเหตุได้หลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้าน ซึ่งเป็นรั้วติดกับกับบ้านของผู้เสียชีวิต เนื่องจากทั้งสองเป็นญาติกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ระดมปิดล้อมบ้านของนายสมเจตน์ โดยใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงยินยอมมอบตัว ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปสอบปากคำยัง สภ. เมืองนครปฐม

สบอสวน นายประภาวุธ อายุ 25 ปี ลูกชายอีกคนของผู้เสียเสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ น้องชายโทรมาบอกกับตนว่า มีการตั้งวงกินเหล้ากันอยู่ที่ข้างบ้าน ซึ่งนายสมเจตน์นั้นมีศักดิ์เป็นน้าชายของตน และมีอาวุธปืนด้วย ตนเองยังบอกกับน้องชายเลยว่า ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็ให้โทรแจ้งตำรวจเลย เพราะคิดว่านายสมเจตน์คงไม่กล้าทำอะไร บ้านเมืองมีกฎหมาย กระทั่งเที่ยงคืนน้องชายโทรมาอีกบอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว

นายคณากร ได้บอกเพียงว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมเจตน์ซึ่งท่าทางไม่ดีมีปากเสียงกันได้เข้ามาในบ้าน ชักอาวุธปืนยิงใส่เข้าที่ขา เมื่อพ่อได้ยิน จึงได้คว้าเหล็กออกมาช่วย แม่ก็ได้วิ่งตามมา ปรากฏว่า นายสมเจตน์ได้สาดกระสุนปืนใส่ไม่ยั้ง ถ้าหากตนเองอยู่ในเหตุการณ์คงจะตายกันยกครัว

สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก เมื่อ 2 เดือนก่อน ตนเองนอนเล่นอยู่ เห็นนายสมเจตน์เดินเข้ามาดูต้นกล้วยด่างที่บ้าน หลังจากนั้นผ่านไป 2 วัน ต้นกล้วยด่างราคา 200,000 บาท หายไป จึงได้ทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนนายสมเจตน์ ได้พูดจาข่มขู่ไว้ว่า จะจัดการให้หมดบ้าน

ทำให้ต้องแจ้งความจนเป็นคดี หลังจากนั้นนายสมเจตน์ได้นำต้นกล้วยด่างราคา 200,000 บาท าคืนพร้อมขอเคลียปัญหา แต่คนทางบ้านผมไม่อยากคุยด้วย เพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน พ่อของตนเคยถูกไม้ตีหัวจนแตก ทางบ้านก็ทราบกันดีว่าเป็นฝีมือของนายสมเจตน์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะไปเอาผิด