ถ้าพูดถึง “ไม้อวบน้ำ” หลาย ๆ คนอาจจะนึกถึงภาพกุหลาบหินที่มีกลีบดอกเรียงซ้อนกันสวยงาม หรืออาจจะนึกถึงไม้ใบใสรูปทรงสวยอย่าง Harworthia แต่จริง ๆ แล้วนั้นยังมีไม้อวบน้ำอีกชนิดหนึ่งที่รูปร่างหน้าตาภายนอกอาจจะดูไม่โดดเด่นเท่าไรนัก แต่ลักษณะบางประการของพวกมันนั้นกลับแฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้เราอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ เจ้าต้นสีเขียวที่ดูเหมือนจะมีหนามและมีรูปร่างหน้าตาสีสันลวดลายหลากหลายนี้ถูกเรียกว่า “เก๋งจีน” แรกเริ่มเดิมทีผู้เขียนไม่เคยรู้จักกับเจ้าต้นเก๋งจีนมาก่อน แต่ด้วยความชอบกระบองเพชรจึงทำให้มีโอกาสได้ซื้อเอาเจ้าต้นเก๋งจีนที่วางขายในร้านขายกระบองเพชรกลับมาด้วย แน่นอนว่าหากมองจากลักษณะภายนอกของพวกมันนั้นจะพบว่าพวกมันมีกิ่งก้านสาขาที่ดูแล้วช่างระเกะระกะสายตา รูปทรงก็ไม่สมมาตรสมสวนเหมือนกระบองเพชร เก๋งจีนนั้นเป็นต้นไม้ที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็ไม่น่าสนใจเท่ากับต้นไม้สายพันธุ์อื่น และหากจะไปเทียบความสวยงามกับพวกไม้อวบน้ำตระกูลอื่นก็ยิ่งเทียบกันไม่ติดและหลังจากได้ลองนำเก๋งจีนมาเลี้ยงด้วยวิธีการแบบเดียวกันกับการเลี้ยงกระบองเพชร คือรดน้ำก็ต่อเมื่อดินปลูกแห้งหรือประมาณอาทิตย์ละครั้ง วางกระถางไว้ในตำแหน่งที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มอิ่ม ก็พบว่าเจ้าต้นเก๋งจีนนั้นนับวันก็จะยิ่งเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขายืดยาวออกไปเรื่อย ๆ พวกมันไม่ยอมอยู่ในกระถางของตัวเองเหมือนที่เหล่ากระบองเพชรอยู่ และบางครั้งกิ่งก้านของพวกมันก็ยืดยาวไปอาศัยเบียดเสียดในกระถางกระบองเพชรที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วย สรุปก็คือเก๋งจีนเป็นพืชที่ขยายพันธุ์ได้ง่ายแสนง่าย ไม่ว่ากิ่งของมันจะหลุดออกตรงไหน หากเพียงได้สัมผัสกับดินเมื่อไหร่ละก็มันจะงอกรากยาวออกมาทันทีและเจริญเติบโตเป็นเก๋งจีนต้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆพอวันเวลาผ่านไป ผู้เขียนก็ได้มีโอกาสสะสมเก๋งจีนสายพันธุ์ต่าง ๆ มากขึ้น จะเรียกว่ารู้สึกชอบขึ้นมาก็คงไม่ใช่ แต่ที่ซื้อติดมือกลับมาบ้านด้วยนั่นเป็นเพราะความแปลกตาของมันต่างหาก เท่าที่ทราบคือเก๋งจีนนั้นเป็นพืชในตระกูลไม้อวบน้ำที่มีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์นอกจากจะมีส่วนลำต้นที่มีสีสัน ลวดลาย และรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปแล้วมันยังมีลักษณะดอกที่แตกต่างกันไปอีกด้วย และเวลาพวกมันออกดอก มันก็มักจะออกดอกตามบริเวณโคนต้นแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับเหนียมอายไม่อยากให้คนเห็น ต่างจากดอกไม้ชนิดอื่นที่มักจะชูช่อขึ้นสูง ดังนั้นถ้าเราไม่คอยสังเกตให้ดีก็อาจจะทำให้ไม่ทันได้เห็นดอกเก๋งจีนได้ดอกของเก๋งจีนนั้นไม่ได้มีสีสันสดใสหรือหน้าตาดูน่าทะนุถนอมเฉกเช่นกับดอกกระบองเพชรหรือดอกไม้ทั่ว ๆ ไป พวกมันมีดอกที่หน้าตาดูประหลาด สีสันส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีเหลือง น้ำตาล และแดงเข้ม บางพันธุ์จะมีลวดลายสลับสีกัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือดอกของเก๋งจีนบางสายพันธุ์นั้นมีกลิ่นค่อนข้างเหม็นมาก หลังจากที่ดอกบานเต็มที่เมื่อไร หากเรานำกระถางไปตั้งไว้ตรงที่มีลมพัดผ่านไม่นานก็จะมีแมลงวันบินตามมาคอยผสมเกสรให้ ดังนั้นถ้าใครอยากจะลองขยายพันธุ์เก๋งจีนโดยการใช้เมล็ด ถ้าไม่มีเจ้าแมลงวันมาช่วยผสมเกสรให้ก็จะต้องทำการผสมเกสรดอกเก๋งจีนด้วยตัวเองจึงจะได้เมล็ดพันธุ์เก๋งจีนนำไปปลูกต่อไปและถึงแม้ว่าเก๋งจีนนั้นดูจะเป็นต้นไม้ที่โตง่าย ขยายพันธุ์ได้ง่าย แต่ความจริงแล้วนั้นพวกมันก็มีมุมอ่อนแออยู่บ้าง ถ้าเราวางกระถางไว้ในจุดที่มีแสงแดดจัดมากจนเกินไปก็อาจจะทำให้ลำต้นพวกมันเกิดการสุกเน่าได้เช่นเดียวกันกับกระบองเพชร หรือหากรดน้ำจนชุ่มบ่อยเกินไปก็จะทำให้เจ้าต้นเก๋งจีนเน่าหรือเกิดการติดเชื้อราได้เช่นกันดังนั้น หากอยากใครอยากจะลองเลี้ยงเก๋งจีนดู ผู้เขียนขอแนะนำว่าให้ลองปลูกพวกมันในกระถางใบใหญ่ ๆ ให้มีพื้นที่ในการแผ่ขยายกิ่งก้านสาขา ใช้ดินที่โปร่งและระบายน้ำได้ดี หรือใช้ดินแบบเดียวกันกับดินปลูกกระบองเพชรในการปลูก และวางกระถางเก๋งจีนให้ได้รับแสงแดดในปริมาณที่เพียงพอตลอดวันเนื่องจากพวกมันเป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างชอบแดด เพียงไม่นาน จากเก๋งจีนหนึ่งกิ่งจะแตกกิ่งก้านสาขาออกไปอีกมากมายให้เราเลี้ยงกันไม่หวาดไม่ไหว แถมยังออกดอกให้เราได้คอยชื่นชมอีกด้วยค่ะภาพประกอบบทความถ่ายโดยผู้เขียนบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง - [แชร์เทคนิค] เลี้ยง “กระบองเพชร” สำหรับมือใหม่อย่างไรให้ไม่ตาย- หัดเลี้ยงกล้วยไม้ ฉบับมือใหม่!- 🍍สับปะรดสี ไม้ประดับใบสวยที่ทุกคนจะต้องหลงรัก