นายกฯ ชู "คราม-จักสาน" สู่แฟชั่นโลก เปิดทางแบรนด์ดังลงทุนไทย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐอิตาลีอย่างเป็นทางการในวันนี้ เป็นโอกาสดีที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างไทยกับอิตาลีในด้านต่างๆ โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ การลงทุน และอุตสาหกรรมแฟชั่น
เริ่มภารกิจในช่วงเช้า นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมโรงงาน Zegna แบรนด์แฟชั่นขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ที่มีร้านค้าในไทย และ Loro Piana บริษัทสิ่งทอสำหรับประเทศที่มีอากาศหนาว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดสาขาที่พารากอน โดยนายกฯ ได้นำเสนอผ้าย้อมครามจาก จ. สกลนคร และเครื่องจักสานโครงการดอนกอยแก่ทั้งสองบริษัท เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งได้รับความสนใจอย่างดี โดย Zegna จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาไทยใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่ Loro Piana มีแผนเปิดสาขาเพิ่มในไทย รวมถึง pop-up store และ concept based store ในภูเก็ตปีนี้
ช่วงบ่าย นายกฯ ได้หารือกับนายคาร์โล คาปาซา ประธานหอแฟชั่นอิตาลีแห่งชาติ สมาคมที่จัดงาน Milan Fashion Week เสนอให้มีความร่วมมือแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แก่ดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ และส่งไปฝึกอบรมที่อิตาลี รวมทั้งพูดคุยให้นำดีไซเนอร์อิตาลีที่มีชื่อเสียงมาช่วยจัดแฟชั่นโชว์ในไทย
ต่อมานายกฯ ได้พบหารือกับนายโธมัส ชูเบิร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งออกของบริษัท Leitner ผู้เชี่ยวชาญผลิตกระเช้าลอยฟ้าแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้เวลาก่อสร้างเพียง 6 เดือน ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ป่า โดยนายกฯ พูดถึงความสนใจทำกระเช้าที่ภูกระดึง ซึ่งอาจขยายไปยังจังหวัดอื่นด้วย เพื่อเพิ่มทางเลือกการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นายกฯ ปิดท้ายภารกิจวันแรกด้วยการพบหารือกับผู้ว่าแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งมี GDP สูงที่สุดของอิตาลี มีความเข้มแข็งในการเกษตรและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเน้นย้ำความพร้อมของไทยที่จะรับการลงทุน และมาตรการสนับสนุนต่างๆ ของรัฐบาล ผู้ว่าฯ ยินดีจะสนับสนุนให้เอกชนไปลงทุนในสาขาที่มีศักยภาพ อาทิ เกษตรอัจฉริยะ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมจะพิจารณาโอกาสร่วมทุนด้านพลังงานสะอาด โดยจะมีคณะทีมประเทศไทยเดินทางไปนำเสนอโอกาสลงทุนโครงการสำคัญๆ ของไทยที่แคว้นลอมบาร์เดียในไตรมาส 3 ปีนี้
ในการตอบคำถามเรื่องการยื่นถอดถอนของ ส.ว. นายกฯ กล่าวว่าทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและรัฐบาลต่างก็ทำหน้าที่ของตน โดยนายกฯ พร้อมพิสูจน์ความชอบธรรม รับฟังเสียงท้วงติง ตอบคำถามและปรับปรุงแก้ไข ส่วนโควตารัฐมนตรีที่เหลืออยู่นั้นเป็นของพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งต้องหารือกับหัวหน้าพรรคโดยรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน
ภารกิจวันแรกของนายกฯ ในการเยือนอิตาลีเน้นไปที่การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการส่งเสริมการลงทุนในสาขาที่ทั้งสองประเทศมีศักยภาพ อาทิ เกษตรอัจฉริยะ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานทางเลือก นอกจากนี้ ยังนำเสนอโอกาสการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของไทยเข้าสู่วงการแฟชั่นระดับโลก และใช้เทคโนโลยีกระเช้าลอยฟ้าของอิตาลีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากฝ่ายอิตาลี การเยือนในครั้งนี้จึงนับเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการกระชับและต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอิตาลีที่กำลังจะมีอายุครบ 160 ปีในปี 2568 นี้