รีเซต

หุ้นเด่นวันนี้ ! 5 โบรกสกรีน 14 หุ้นสุดฮอต เน้นพลังงาน-ปิโตรฯ รับอานิงส์ราคาน้ำมันพุ่ง

หุ้นเด่นวันนี้ ! 5 โบรกสกรีน 14 หุ้นสุดฮอต เน้นพลังงาน-ปิโตรฯ รับอานิงส์ราคาน้ำมันพุ่ง
TNN World
6 กรกฎาคม 2564 ( 18:14 )
120
หุ้นเด่นวันนี้ ! 5 โบรกสกรีน 14 หุ้นสุดฮอต เน้นพลังงาน-ปิโตรฯ รับอานิงส์ราคาน้ำมันพุ่ง

หุ้นน่าซื้อวันนี้ 6 ก.ค. 64 : โบรกมองหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวจากราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังกลุ่ม OPEC+ ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดกำลังการผลิตได้เลี่ยงหุ้นบริโภคภายในประเทศ หลังผู้ติดเชื้อพุ่งไม่หยุด คาดดัชนีแกว่งในกรอบ 1,565-1,590 จุด เน้นลงทุนหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี

 

 

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า SET INDEX วันนี้ แกว่งตัวออกข้าง กรอบการเคลื่อนไหว 1,570-1,585/1,590 จุด คาดหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี เคลื่อนไหวได้อย่างมีสีสันมากกว่าหุ้นกลุ่ม Domestic Play เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (ล่าสุด Brent แตะระดับ US$77/bbl) ขณะที่หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ มีแรงกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่ทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องหลายวัน

 

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า วอลุ่มการซื้อขายเมื่อวานนี้ ลดลงอย่างชัดเจน เหลือ 5.82 หมื่นล้านบาท น้อยสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ (น้อยสุดก่อนหน้านี้ คือ 6.82 หมื่นล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.2564) สะท้อนบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างอ่อนแรง

 

สำหรับราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประชุมกลุ่ม OPEC+ ไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดกำลังการผลิตได้ ทั้งที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวว่า มีการเสนอแผนเพิ่มกำลังการผลิต 4 แสนบาร์เรลต่อวัน แต่มีบางประเทศสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยกับแผนดังกล่าว ทำให้การเพิ่มอุปทาน (Supply) มีความไม่แน่นอน แต่ด้านอุปสงค์ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากความคาดหวังจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น

 

 

 

สำหรับ หุ้นเด่นวันนี้มี 4 ตัว นำโดย IRPC อาจได้ประโยชน์จากการเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานบริษัทหมิงตี้ เคมิคอล ผู้ผลิต Polystyrene (EPS) ซึ่งในประเทศมีผู้ผลิตแค่ 2 ราย คือ หมิงตี้ และ IRPC โดยหมิงตี้มีกำลังการผลิตราว 3.0 หมื่นตัน และ IRPC ที่ 4.8 หมื่นตัน และคิดเป็น 4% ของกำลังการผลิตรวม แนวโน้มกำไร 2Q64 คาดเติบโต YoY จากแรงหนุนของ Stock Gain หลังราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวขึ้น +11.1% QoQ เป็น USD71.57/barrel สิ้น 2Q64 ช่วยหนุนโดยตรงต่อกำไรสุทธิ

 


หุ้นเด่นวันนี้อีกตัวคือ BCP หุ้นกลุ่มพลังงานมีปัจจัยบวก หลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX, BRENT ทำระดับสูงสุดรอบ 3 ปี ขณะที่แนวโน้มกำไรปกติคาดดีขึ้น QoQ จากแรงหนุนของธุรกิจไฟฟ้า และโรงกลั่นที่ผ่านพ้นช่วงปิดซ่อมบำรุงแล้ว ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอาจได้รับผลกระทบจาก COVID แต่คาดแรงหนุนจาก Stock Gain จะช่วยชดเชยได้ มีปัจจัยบวกรออยู่ คือ การนำบริษัทลูกคือ BBGI ซึ่งดำเนินธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพเข้าจดทะเบียน IPO โดยคาดว่าจะยื่น Filing ใน 3Q64 และ IPO ใน 1Q65 เป็นการปลดล็อก Asset Value ให้กับ BCP

 

หุ้นเด่นวันนี้ตัวต่อมาคือ OSP ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 39.50 บาท แนวรับ 38.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 37.00 บาทคาดผลประกอบการ 1Q64 เป็นจุดต่ำสุดแล้ว และ 2Q64 คาดกำไรจะทรงตัวหรือเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ จากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพช่วยหนุนอัตรากำไรให้เร่งตัวขึ้นชดเชยรายได้ที่ชะลอตัว


หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ GPSC เราคาดว่าปัจจัยลบจาก 1. สถานการณ์ COVID ในประเทศ 2. ปัจจัยการเมือง จะยังกดดันภาพรวมของ SET INDEX ไปอีกระยะ ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Defensive จะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด แนวโน้มกำไร 2Q64 คาดอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากโรงไฟฟ้า GLOW Phase5 กลับมาผลิตได้ปกติ จากไตรมาสก่อนที่มีการปิดซ่อมบำรุง

 

ขณะที่ GPSC มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือโอกาสเติบโตจากธุรกิจ EV Car ในประเทศจากธุรกิจแบตเตอรี่ซึ่งอาจเป็น S-Curve ใหม่ให้กับบริษัท

 

 

 

 

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง กล่าวว่า วันนี้คาด SET ฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1,570 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด เน้นหุ้น Oil Plays โดยหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SPRC คาดกำไรหลักช่วง 2Q64 ปรับขึ้นจากการเข้าสู่ช่วงฤดูการขับขี่ และเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หนุนความต้องการใช้น้ำมันเบนซินปรับตัวขึ้น(Gasoline Spread +87%QOQ)

 

ส่วนระยะกลางขยายตัวต่อจากเศรษฐ กิจภายในฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะนำไปสู่การเปิดประเทศเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.2 บาท

 

หุ้นเด่นอีกตัวคือ PTTEP (upgrade) คาดกำไรหลัก 2Q64 +42% QOQและ +209% YOY สู่ 1.27 หมื่นล้านบาท จากปริมาณขายโต + 13% QOQ และราคาขายเฉลี่ย +7.2%QOQ เราเพิ่มคาดกำไรต่อหุ้นปี 64 ขึ้น 1% ปี 65 ขึ้น 25% เพื่อสะท้อนสมมติฐานราคาน้ำมันดิบปีนี้ที่สูงขึ้นที่ 65 จากเดิมที่ 60 เหรียญสหรัฐ /บาร์เรล)เป้าหมายเชิงกลยุทธ์157 บาท

 

 

 

บล.ไทยพาณิชย์ คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,565-1,590 จุด รอปัจจัยใหม่กำหนดทิศทาง หรือความคืบหน้าของประเด็นสำคัญต่างๆ ได้แก่ 1. จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวัน 2. การฉีดวัคซีน และวัคซีนทางเลือก 3. กระแสตอบรับของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 4. เข้าสู่ช่วงรายงานผลการดำเนินงานใน Q2/64 และ 5. ทิศทางนโยบายการเงินเฟด (ติดตามรายงานประชุมในวันพุธนี้) กลยุทธ์ ใช้การเข้าซื้อแบบ Selective Buy ด้วยความระมัดระวัง

 

สำหรับ theme การลงทุน 1. EV/semiconductor : KCE, HANA, EA, NEX 2. Defensive Plays : กลุ่มการแพทย์ BDMS, RJH และ top picks 3Q64 CRC, GPSC, PM ,RJH, SFT 3. Earnings Play : SCGP, TQM ,CPW, PM ,SFT ,TPAC ,WICE

 

ทั้งนี้ขอให้ระมัดระวังหุ้นกลุ่ม Reopen (อาทิ CPN, BEM, BTS, ZEN) มีแนวโน้มได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งคาดกดดันความเชื่อมั่นของการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน

 

หุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ EA (ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 70 บาท) ได้ sentiment หนุนหลังร่วมมือกับพันธมิตรจีนเพื่อเตรียมสร้างโรงงานประกอบหัวรถจักร และขนส่งมวลชน Hybrid Battery และแนะนำ SFT (ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 7.40 บาท) คาดกำไร 2Q ทำนิวไฮ โต YoY, QoQ จากคำสั่งซื้อเติบโตต่อเนื่องและการขยายฐานลูกค้าใหม่

 

 

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง