ทรัมป์กดดันตุรกีเลิกซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวต่อหน้าสื่อ ขณะมีประธานาธิบดีเรเซป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกีนั่งอยู่เคียงข้างในทำเนียบขาว ว่า การหยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียจะเป็น “สิ่งที่ดีที่สุด” ที่ผู้นำตุรกีสามารถทำได้

แม้การหารือในห้องทำงานรูปไข่ จะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรตุรกี หรือการขายเครื่องบินขับไล่ F-35 ให้ตุรกี แต่ทรัมป์แสดงความมั่นใจว่า ทั้งสองประเด็นจะมีความคืบหน้าในอนาคต

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้ห้ามไม่ให้ตุรกีเข้าร่วมโครงการผลิตและจัดซื้อเครื่องบิน F-35 มานานหลายปี โดยในปี 2019 ตุรกีถูกกีดกันออกจากโครงการผลิตชิ้นส่วน F-35 หลังจากที่ได้จัดซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 จากรัสเซีย ซึ่งทางสหรัฐฯ มองว่าไม่สอดคล้องกับระบบของสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต

ในช่วงถามตอบกับสื่อ ทรัมป์กล่าวว่า เขาต้องการให้ตุรกี “หยุดซื้อน้ำมันและก๊าซจากรัสเซีย” ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัสเซียยังคงโจมตียูเครนอย่างต่อเนื่อง

ทรัมป์ยังกล่าวชื่นชมว่า แอร์โดอันได้รับความเคารพจากทั้งประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี และประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ซึ่งอาจทำให้เขามี “อิทธิพลอย่างมาก” หากต้องการมีบทบาทในการยุติสงคราม

ตุรกีถือเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของรัสเซีย สำหรับน้ำมันและก๊าซ เช่นเดียวกับอินเดียและจีน โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า การส่งออกก๊าซรัสเซียไปยุโรปผ่านตุรกีเพิ่มขึ้นกว่า ร้อยละ 26 ในช่วงต้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของทรัมป์มีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ หลังจากการที่เขาประกาศพร้อมใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นกับรัสเซีย หากชาติสมาชิกนาโตยอมระงับการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย โดยก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยวิจารณ์ว่า บางประเทศในนาโตกำลัง “เป็นผู้สนับสนุนสงครามเสียเอง” ด้วยการซื้อพลังงานจากรัสเซีย