รัสเซียบุกยูเครนแน่! ไบเดนฟันธง แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จัดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (19 มกราคม) ตามเวลาในสหรัฐฯ ในโอกาสครบรอบ 1 ปีการขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โอกาสนี้ ประธานาธิบดีไบเดนคาดว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะส่งทหารบุกยูเครน แต่น่าจะไม่ถึงขั้นเป็น “สงครามเต็มรูปแบบ”
ไบเดนคิดว่า ความตั้งใจของปูตินเกี่ยวกับยูเครน คือต้องการทดสอบผู้นำประเทศตะวันตกและองค์การ NATO
อย่างไรก็ตาม ไบเดนเตือนปูตินว่า รัสเซียจะต้องรับผิดชอบหากบุกยูเครน และจะต้องจ่าย “ในราคาที่แพงมาก” หากคิดทดสอบประเทศตะวันตก ปูตินจะต้องเจอกับมาตรการคว่ำบาตรที่หนักหน่วง อย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน และจะถึงขั้นเป็นหายนะของรัสเซีย
ไบเดนสัญญาว่า สหรัฐฯ จะคว่ำบาตรลงโทษรัสเซียแน่นอน หากยังขืนบุกยูเครน และในแง่ของการสูญเสียชีวิตของชาวรัสเซียก็มีราคาที่ต้องจ่ายหนักมากเช่นกัน
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้เตรียมพร้อมมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างกว้าง ๆ เอาไว้แล้ว และยังเตรียมมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอีกหลายอย่าง หากรัสเซียรุกรานยูเครน แต่ระดับการลงโทษรัสเซียจะหนักหน่วงเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับระดับของการรุกรานยูเครนด้วย
แต่ผู้นำสหรัฐฯ แสดงความวิตกว่า สถานการณ์ยูเครนอาจเลวร้ายลงจนถึงขั้น “ควบคุมไม่ได้”
ไบเดนกล่าวด้วยว่า การประชุมสุดยอดกับผู้นำรัสเซียเป็นครั้งที่ 3 ว่าด้วยวิกฤตยูเครน อาจมีโอกาสเกิดขึ้น หลังไบเดนกับปูตินประชุมสุดยอดกันมาแล้ว 2 รอบในปีที่แล้ว (2021)
---รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ ไปยูเครน---
ชาติตะวันตกร้อนใจอย่างมากว่ารัสเซียจะบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ และเตรียมความพร้อมที่จะบุกได้ทุกเวลา ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนยูเครนเพื่อแสดงการสนับสนุนแล้ว
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนเมื่อวานนี้ (19 มกราคม) ได้เข้าพบประธานาธิบดียูเครนและคณะรัฐบาล จากนั้นจะเดินทางต่อไปที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี เพื่อหารือกับพันธมิตรยุโรป ก่อนจะพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การหารือที่จะมีขึ้น บลิงเคนจะเน้นไปที่ความพร้อมของพันธมิตรในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
---เตือนยูเครนพร้อมรับมือสงคราม---
บลิงเคนกล่าวกับเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟว่า สหรัฐฯ ทราบว่ารัสเซียมีแผนจะเพิ่มกองกำลังมากขึ้นและนั่นทำให้ประธานาธิบปูติน สามารถสั่งปฏิบัติการเชิงรุกต่อยูเครนได้ในเวลาอันสั้น แต่สหรัฐฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัสเซียจะสามารถยึดมั่นในเส้นทางการทูตและสันติสุขท่ามกลางวิกฤต
บลิงเคนกล่าวว่ายูเครน ควรเตรียมพร้อมสำหรับวันที่ยากลำบาก แต่สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือด้านการป้องกันแก่ยูเครนต่อไปและขยายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างรุนแรงในกรณีที่มีการบุกรุกครั้งใหม่ พร้อมให้คำมั่นสัญญาว่า จะใช้ความพยายามทางการทูตอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อป้องกันการรุกรานครั้งใหม่ และส่งเสริมการเจรจา และสันติภาพ
อย่างไรก็ตาม เขาตอบผู้สื่อข่าวว่า จะยังไม่มีการเสนอคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรในการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียครั้งนี้ในสัปดาห์นี้
การเดินทางของบลิงเคนมีขึ้น ท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกว่า รัสเซียอาจสร้างสถานการณ์เพื่อหาข้ออ้างบุกยูเครน และอาจจะบุกยูเครนเร็ว ๆ นี้
นอกจากมีการวางกำลังนับแสนนายประชิดชายแดนยูเครน กองทหารรัสเซียได้เดินทางไปยังเบลารุส สร้างความกังวลต่อประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ ว่าจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความมั่นคงภูมิภาคไร้เสถียรภาพมากขึ้น
---รัสเซียเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง---
รัสเซียซึ่งไม่ยอมหยุดการเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนยูเครน ปฏิเสธว่าไม่ได้วางแผนจะโจมตียูเครน และการส่งทหารไปเบลารุสก็เพื่อซ้อมรบร่วมกันเท่านั้น
แต่ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยระบุว่า อาจดำเนินการทางทหาร หากชาติตะวันตกไม่ยินยอมตามข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงของตน ที่รวมถึงการที่ไม่ต้องการให้ NATO รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และขอให้ NATO หยุดขยายตัวมาทางตะวันออก และให้ถอนกำลังทหารออกจากประเทศในยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง ที่เข้าเป็นสมาชิก NATO หลังปี 1997 และขณะนี้รัสเซียกำลังรอคำตอบเป็นลายลักษณ์อักษรจากสหรัฐฯ และ NATO หลังการประชุม 3 รอบ ที่ยุโรปไม่มีความคืบหน้า
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ยูเครนเตือนว่า รัสเซียอาจโจมตียูเครนจากหลายทิศทาง รวมทั้งจากผืนแผ่นดินของชาติพันธมิตรอย่างเบลารุส ก็เป็นได้ และรัสเซียมีแผนซ้อมรบร่วมขนาดใหญ่กับเบลารุสในเดือนหน้านี้ ใกล้ ๆ ชายแดนติดยูเครนด้วย
ด้าน ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวหารัสเซียว่าพยายามสร้างความตื่นตระหนก ไม่ไว้วางใจและทำให้ระบบการเงินของยูเครนไม่มั่นคง และชี้ว่าการเจรจาต่อรองเป็นทางออกเดียว และไม่ควรมีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับยูเครน โดยที่ยูเครนไม่ได้มีส่วนร่วม
---ปฏิกิริยาจากนานาชาติ---
นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ระบุว่า แคนาดากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรระหว่างประเทศ เพื่อทำให้รัสเซียรับรู้ได้ชัดเจนมากขึ้นว่าการเคลื่อนไหวใด ๆ ต่อยูเครนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้อย่างแน่นอน
Global News รายงานว่า แคนาดาส่งหน่วยปฏิบัติการกองกำลังพิเศษกลุ่มเล็ก ๆ ไปยังยูเครน หลังจากการเจรจาด้านความมั่นคงในสัปดาห์ที่แล้วสิ้นสุดลงโดยไม่มีการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน
การปรากฏตัวของหน่วยปฏิบัติการพิเศษของแคนาดาเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของพันธมิตร NATO ในการยับยั้งการรุกรานของรัสเซียในยูเครน และเพื่อระบุวิธีการช่วยเหลือรัฐบาลยูเครน
แคนาดา เป็นประเทศที่มีประชากรยูเครนอาศัยอยู่มากเป็นอันดับสามของโลกรองจากยูเครนและรัสเซีย และยังคงมีทหารแคนาดา 200 นาย ปฏิบัติภารกิจการฝึกอย่างแข็งแกร่งในยูเครนตะวันตกตั้งแต่ปี 2015
---อังกฤษก็ส่งอาวุธให้ยูเครน---
หลังจากที่รัฐบาลยูเครนได้เรียกร้องให้ชาติตะวันตกจัดส่งอาวุธมาช่วยปกป้องยูเครน ล่าสุดสหราชอาณาจักรได้จัดส่งอาวุธและระบบป้องกันอาวุธต่อต้านรถถังไปถึงยูเครนแล้ว พร้อมกับบุคลากรของอังกฤษจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยฝึกการใช้ในช่วงเวลาสั้น ๆ
แต่ไม่ได้ระบุจำนวนหรือประเภทของอาวุธที่ถูกส่งออกไป ย้ำเพียงว่า อาวุธที่ส่งไปไม่ใช่อาวุธเชิงยุทธศาสตร์ และไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อรัสเซีย โดยยูเครนจะนำไปใช้เพื่อป้องกันตนเอง
อนาโตลีย์ เปเตรนโค รัฐมนตรีช่วยกระทรวงบูรณาการยุโรป ของยูเครน ระบุว่า สิ่งนี้จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังทัพ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันตัวของยูเครน
ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรเคยเตือนรัสเซียถึงผลรุนแรงที่จะตามมา หากเปิดการโจมตีทางทหารครั้งใหม่ต่อยูเครน ขณะเดียวกันก็เสนอเงินทุนเพื่อเสริมศักยภาพให้แก่กองทัพเรือของยูเครนด้วย
—————
แปล-เรียบเรียง: สุภาพร เอ็ลเดรจ และ เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์
ภาพ: Reuters