"คอลเกต" ปรับบรรจุภัณฑ์หลังถูกจับตาเรื่องฟลูออไรด์

บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก Colgate-Palmolive ประกาศปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์และแนวทางการตลาดของยาสีฟันภายใต้หลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Colgate, Tom’s of Maine และ hello เพื่อสะท้อนถึงปริมาณการใช้ที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก หลังจากได้รับข้อกังวลจาก Ken Paxton อัยการสูงสุดรัฐเท็กซัส ที่ออกมาแสดงความห่วงใยต่อผู้ปกครองและเด็กในเรื่องการใช้ฟลูออไรด์

มาตรการใหม่นี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป โดยคอลเกตจะปรับภาพประกอบที่ปรากฏบนบรรจุภัณฑ์และสื่อโฆษณาออนไลน์ ให้แสดงปริมาณยาสีฟันสำหรับเด็กต่ำกว่า 6 ปีเป็นเพียงขนาดเท่าเมล็ดถั่ว แทนการใช้ภาพที่เคยเป็นลักษณะปริมาณมากหรือการปาดยาวบนแปรง ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับปริมาณที่ปลอดภัยในการใช้งาน

Paxton ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลจากการสืบสวนที่เริ่มต้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยสำนักงานอัยการรัฐได้ส่งหนังสือสอบสวนทั้ง Colgate และ Procter & Gamble ผู้ผลิตยาสีฟันแบรนด์ Crest โดยกล่าวหาว่าการตลาดของทั้งสองบริษัทอาจทำให้ผู้ปกครองเข้าใจผิดและใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณเกินความเหมาะสม ซึ่งกรณีของ Procter & Gamble ยังคงอยู่ในกระบวนการพิจารณา

การดำเนินการของอัยการสูงสุดเชื่อมโยงกับการรณรงค์ “Make America Healthy Again” ซึ่งเกี่ยวข้องกับแนวคิดของ Robert F. Kennedy Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์สหรัฐฯ โดยมีทั้งผู้สนับสนุนที่เห็นว่าเป็นการปกป้องสุขภาพ และผู้วิจารณ์ที่กังวลว่าอาจย้อนรอยความก้าวหน้าทางสาธารณสุขที่สั่งสมมาหลายทศวรรษ

แม้ฟลูออไรด์ได้รับการยืนยันจาก สมาคมทันตกรรมอเมริกัน (ADA) ว่าสามารถช่วยเสริมความแข็งแรงของเคลือบฟันและป้องกันฟันผุได้ แต่ยังมีงานวิจัยบางส่วนที่สร้างความถกเถียง เช่น การศึกษาในวารสาร JAMA Pediatrics เมื่อต้นปีที่ระบุว่าการได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณสูงอาจเชื่อมโยงกับระดับสติปัญญาที่ต่ำลงในเด็ก อย่างไรก็ตาม บทบรรณาธิการของผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจากมหาวิทยาลัยไอโอวาได้ออกมาโต้แย้งถึงข้อบกพร่องของการวิเคราะห์ และเตือนว่าไม่ควรใช้ผลดังกล่าวเพื่อเปลี่ยนนโยบายสาธารณะ

ในมุมการเมือง Paxton ซึ่งเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายโค่นบัลลังก์ John Cornyn วุฒิสมาชิกรีพับลิกันคนปัจจุบัน การเคลื่อนไหวในประเด็นด้านสุขภาพและความปลอดภัยผู้บริโภคครั้งนี้จึงถูกจับตาว่าอาจเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างคะแนนนิยมทางการเมืองด้วยเช่นกัน

การเปลี่ยนแปลงของ Colgate ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแรงกดดันทางสังคมและการเมือง ที่บีบบังคับให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคปรับกลยุทธ์เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค และตอกย้ำถึงความท้าทายในการรักษาสมดุลระหว่างการตลาด การคุ้มครองผู้บริโภค และผลประโยชน์ด้านสาธารณสุขในสหรัฐอเมริกา