กทม.ยันอัตราครองเตียงโควิดกรุงเทพฯ ยังไหว! เฝ้าระวังป่วยหนักใส่ท่อหายใจ

เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ศาลาว่าการ กทม. 2 (ดินแดง) นพ.ชวินทร์ ศิรินาค รองปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้สัมภาษณ์ถึงอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ว่า ขณะนี้ กทม.ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ไม่ใช่แค่โรงพยาบาล (รพ.) ในสังกัด กทม. 11 แห่ง แต่ยังมี รพ.รัฐ และ รพ.เอกชน ในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย ดังนั้น ศักยภาพในการรองรับผู้ป่วยยังโอเค ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว-สีเหลือง ทั้งนี้มีคอมมูนิตี้ไอโซเลชั่น (CI) ที่เตรียมไว้มากมาย แต่ขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่อยากอยู่บ้าน ไม่อยากไปอยู่ CI กัน เพราะบริบทของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปลี่ยนไปทำให้การรักษาที่บ้านง่ายขึ้น

นพ.ชวินทร์ กล่าวถึงอัตราการครองเตียงในกรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้จะมีทั้งผู้ป่วยปกติ และผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งได้มีการจัดสรรเตียงให้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 อยู่แล้ว ดังนั้น ณ ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไรต่อผู้ป่วยปกติทั่วไป หากปวดท้อง หรือเป็นไส้ติ่ง ก็ยังเข้ารับการผ่าตัดได้ปกติ

“ในส่วนของผู้ป่วยปอดอักเสบในกรุงเทพฯ นั้น ในบางรายอาจจะไข้ ไอ หอบ เล็กน้อย ให้ออกซิเจนผ่านสายยางเข้าทางจมูก กินยา 10 วัน ก็หายเป็นปกติ แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือ ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ จะยังต้องเฝ้าระวังอยู่ตลอด ซึ่งขณะนี้ยังมีไม่มากเท่าเมื่อก่อนแล้ว แม้จะมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นก็ตาม” นพ.ชวินทร์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการลงพื้นที่ไปตรวจสอบร้านค้า สถานประกอบการที่อาจจะมีการรวมกลุ่มกันของทั้งนักท่องเที่ยว และประชาชนที่ออกมาดื่มกินหรือไม่ นพ.ชวินทร์ กล่าวว่า มีอยู่แล้ว จะมีหมุดตามที่ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้ประกาศไว้

“ซึ่งถ้าจะจัดกิจกรรม/อีเวนต์ที่มีการรวมกลุ่มกันมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป จะต้องไปขออนุญาตไปยังสำนักอนามัย กทม. แต่ถ้าไม่เกินก็ขอที่สำนักงานเขตในพื้นที่ โดยต้องแนบรายละเอียดมาว่ามีพื้นที่กี่ตารางเมตร เนื่องจากต้องจำกัดจำนวนคนตามพื้นที่ มีมาตราการต่างๆ ที่เข้มงวด จากนั้น เราจะมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจตราดูว่าทำตามที่บอกหรือไม่ หากเจอว่าฝ่าฝืนก็ต้องว่ากล่าวตักเตือน แต่ถ้ายังทำอยู่ก็ต้องสั่งปิด” นพ.ชวินทร์ กล่าว