อดีตเหยื่อจ่าคลั่งกราดยิงโคราช สภาพร่างกายจิตใจดีขึ้น หลังถูกยิงท้องและขาหวิดดับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ได้คลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้อาวุธสงคราม กราดยิงประชาชนกลางเมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2563 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งแม้เวลาจะผ่านมาร่วม 2 ปีแล้ว แต่ภาพเหตุการณ์ยังคงติดตา และฝังอยู่ในความทรงจำของผู้เคราะห์ร้าย ครอบครัว ชาวโคราชและคนไทยทั้งประเทศ

ซึ่งวันนี้ (9 กุมภาพันธ์ 2565) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสิทธิศักดิ์ วาดโคกสูง อดีตนักศึกษา ระดับ ม.ปลาย กศน.อำเภอเมืองนครราชสีมา ซึ่งเป็นเหยื่อรายหนึ่งในเหตุการณ์กราดยิง ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ท้องและขา ต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนที่ รพ.เซ็นต์เมรี่ แต่อาการสาหัสต้องส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ใช้เวลากว่า 6 เดือน อาการจึงจะดีขึ้น ขาหายเป็นปกติ แต่ยังทิ้งร่องรอยบาดแผลเอาไว้ย้ำเตือนความทรงจำ

โดยนายสิทธิศักดิ์ฯ ได้กล่าวระหว่างกักตัวเองที่บ้านพักเนื่องจากอยู่ในภาวะกลุ่มเสี่ยงโควิด 19 ว่า จากเหตุกราดยิง ผ่านมา 2 ปีแล้ว ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ ไม่ได้คิดฟุ้งซ่านอะไรมากนัก ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ให้ความช่วยเหลือ โดยรับบรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงานราชการ รพ.ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ตำแหน่งพนักงานบริการ

และที่ผ่านมา ได้นำเงินเยียวยามาต่อยอดสร้างอาชีพระหว่างรักษาตัว ด้วยการเลี้ยงหนูนาและเลี้ยงแพะในช่วงโควิด 19 แพร่ระบาด ปัจจุบันได้จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจาก กศน.อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่างกายหายเป็นปกติและใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว เหลือแต่รอยแผลเป็นที่คอยย้ำเตือนให้นึกถึงเหตุการณ์กราดยิงอยู่เสมอ แต่ทุกคนก็ให้กำลังใจและฟื้นฟูจนสภาพจิตใจดีขึ้น ซึ่งหลังจากจบการศึกษา ก็ได้เข้าทำงานที่ รพ.ค่ายสุรนารี แผนกส่งเสริมสุขภาพและเวชกรรมป้องกัน หรือ สป.กลาง รพ.ค่ายสุรนารี ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ทำงานมาครบ 1 ปีเต็ม รู้สึกดีใจที่ได้ทำงานราชการ เพราะเป็นอาชีพที่มั่นคง และมีสวัสดิการดูแลครอบครัวด้วย จะได้ไม่ต้องเป็นภาระให้กับคนอื่น ต้องขอขอบคุณทางกองทัพบก ที่ยื่นมือมาช่วยเรื่องการทำงานเลี้ยงชีพและขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจมาโดยตลอด