พายุลูกเห็บเกิดน้อยลง เพราะภาวะโลกร้อน แต่ข่าวร้ายคือขนาดลูกเห็บใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล และสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการเกิดพายุลูกเห็บ โดยผลการวิจัยได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Nature Communications โดยระบุว่า ภาวะโลกร้อนรุนแรงภายใต้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้นมีความเชื่อมโยงกับอัตราการเกิดพายุลูกเห็บลดลงไปจากเดิม แต่ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ และที่สำคัญลูกเห็บมีขนาดใหญ่ขึ้น และสามารถสร้างความเสียหายได้มากขึ้นกว่าเดิม

การลดลงของพายุลูกเห็บมีหลายปัจจัย โดยลูกเห็บมักจะก่อตัวสูงขึ้นในชั้นบรรยากาศ เมื่อสัมผัสกับอากาศที่อุ่นขึ้น กระแสลมพายุอ่อนลง ทำให้ลูกเห็บในชั้นบรรยากาศมีระยะเวลาในการสลายตัวนานขึ้นก่อนตกถึงพื้น ขณะที่ในอนาคตข้างหน้าพื้นที่ทางตอนใต้ของยุโรปมีแนวโน้มเกิดพายุลูกเห็บซึ่งมีรูปแบบการเกิดคล้ายกับพายุในช่วงฤดูร้อนบ่อยขึ้น 

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนมีผลต่อการเกิดพายุ ซึ่งหลายพื้นที่อาจต้องเตรียมรับมือกับพายุลูกเห็บที่เกิดขึ้นไม่บ่อยแต่สร้างความเสียหายสูงต่อโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร รวมถึงการเดินทางทางอากาศหากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 5 องศาเซลเซียส 

อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ของการเกิดพายุลูกเห็บขนาดใหญ่ในยุโรปตอนกลางอาจลดลง และมีโอกาสต่ำในยุโรปเหนือและสหราชอาณาจักร แต่อาจเพิ่มขึ้นในยุโรปทางตอนใต้โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว จากการศึกษานี้อาจเป็นสัญญาณเตือนให้หลายประเทศในทวีปยุโรปต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนมากขึ้นกว่าเดิม