ทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำภาพการก้าวสู่เทเลคอม-เทคคอมปานีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย ในฐานะผู้นำด้านซีเคียวริตี้ ทั้งโครงข่ายและบริการดิจิทัลเต็มรูปแบบ ด้วยการเปิดตัว “ทรู-ดีแทค ซีเคียวริตี้” (True I dtac SECURITY) ที่ผนึกและผสานความปลอดภัยขั้นสูงสุดตั้งแต่รากฐาน จนถึงการดูแลลูกค้า ให้ใช้ชีวิตยุคดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยภายใต้แนวคิด Your Everyday Living Tech เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา 

3 จุดเด่นของ “True I dtac SECURITY” 

จุดเด่นของความเป็น “ทรู-ดีแทค ซีเคียวริตี้” มีอยู่ด้วยกัน 3 จุดเด่น ได้แก่

• End-to-end Protection ปกป้องภัยคุกคามทางโลกออนไลน์ ครบวงจรทั้งบนเครือข่าย และแอปพลิเคชันตามมาตรฐานโลก

• 24/7 Smart Monitoring ระบบป้องกันแบบทันท่วงที ตรวจติดตามเฝ้าระวังการทำงานของระบบต่าง ๆ แบบอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชั่วโมง

• Best-in-class Partnership ผนึกกำลังกับพันธมิตรชั้นนำระดับเวิลด์คลาส (World-class) ทั้งในด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ (Cyber Security) เช่น  Crowd Strike, Palo Alto Networks, และ Vectra AI รวมถึงด้านประกันภัยที่จับมือกับ เอฟดับเบิลยูดี (FWD) และทิพยประกันภัย  

นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู เป็นแบรนด์ที่มุ่งนำเทคโนโลยีเข้าถึงทุกคนและทำให้ชีวิตดียิ่งขึ้นในทุกวัน (Your Everyday Living Tech) ซึ่งหลังการควบรวมกิจการทำให้เรานำความเชี่ยวชาญของทั้งทรูและดีแทค มารวมพลังเพื่อดูแลลูกค้าคนจากภัยคุกคามที่มากับโลกยุคดิจิทัล” 

ทั้งนี้ True I dtac SECURITY จะสะท้อนการปกป้องและดูแลความปลอดภัยทุกระบบแบบครบวงจร ผ่านสัญลักษณ์ True I dtac SECURITY บนสินค้าและบริการจากทรู ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก ด้วยคะแนน NIST Score ที่ประเมินความมั่นคงปลอดภัยทางโลกออนไลน์ที่สูงกว่าค่ามาตรฐานโลก 

นอกเหนือความมั่นใจระบบความปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานแล้ว ทรูยังขยายขอบเขตนิยามความปลอดภัยไปสู่ลูกค้าคนสำคัญและครอบครัวในยุคดิจิทัล ด้วยแพ็กเกจที่ครอบคลุมทั้งการปกป้องคุ้มครองจากภัยไซเบอร์ทั้งในส่วนลูกค้าองค์กร และรายบุคคล การประกันภัย และประกันชีวิตและอุบัติเหตุสุดคุ้ม รวมถึง ความคุ้มครองดูแลมือถือและแท็บเล็ตสุดพิเศษอีกด้วย

“True I dtac SECURITY” ปลอดภัยไร้รอยต่อตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

หนึ่งในเป้าหมายการพัฒนา True I dtac SECURITY คือการเพิ่มการป้องกันระบบโครงสร้างพื้นฐาน เครือข่าย  คลาวด์ และทุกระบบแบบครบวงจร ให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามในปัจจุบันแบบสูงสุดที่ครอบคลุมใน 5 ด้าน คือ

• Infrastructure Security การป้องกันระบบโครงสร้างพื้นฐาน และอุปกรณ์การใช้งานให้ปลอดภัยจากภัยคุกคาม อาทิ ตรวจจับความผิดปกติหากมีการทำงานที่เข้าข่ายความเสี่ยงจะถูกห้ามใช้งานทันที การตรวจสอบช่องโหว่ของระบบ และแก้ไขก่อนถูกโจมตี การยืนยันเข้าใช้งานระบบปฏิบัติการด้วยผู้ดูแลระบบ เป็นต้น 

• Network Security การป้องกันภัยคุกคาม และการโจมตีบนเครือข่ายที่ช่วยจำกัดสิทธิการเข้าถึงระบบ โดยกำหนดให้เฉพาะผู้ใช้งาน หรือผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ป้องกันภัยคุกคามที่เข้ามาทาง เว็บ หรือแอปพลิเคชัน พร้อม Zero trust network ที่บังคับให้ทุกระบบต้องมีการขออนุญาตก่อนการเชื่อมถึงกัน  

• Cloud Security การป้องกันระบบโครงสร้างบนคลาวด์ ให้ปลอดภัยด้วยระบบช่วยตรวจสอบการตั้งค่า และช่องโหว่ต่างๆ ให้ถูกต้องและปลอดภัยอยู่เสมอ 

• 24/7 Smart Security Management ระบบเฝ้าระวังภัยคุกคาม ตรวจสอบและรับมือตลอด 24 ชั่วโมงด้วย Security Center Operation จากเจ้าหน้าที่ควบคู่ไปกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่รวบรวมข้อมูลการใช้งานจากระบบต่างๆ ในมาวิเคราะห์และหาสาเหตุเมื่อเกิดเหตุขึ้น

• Best-in-Class Partnership จับมือพันธมิตรชั้นนำด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก เพิ่มประสิทธิภาพให้บริการด้านบริหารจัดการระบบความปลอดภัยไซเบอร์ อาทิ  บริษัท คลาวด์ สไตร์ท อินคอร์พอเรชั่น จำกัด, บริษัทซี-สเกเลอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท อิมเพอว่าร์ ประเทศไทย, บริษัท พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ และบริษัท เวคตร้า เอไอ  

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หนึ่งในพันธกิจสำคัญของทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อความเป็น เทเลคอม-เทคคอมปานีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย คือการสร้างและขยายโครงข่ายสื่อสารโทรคมนาคมให้แข็งแกร่งและครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้กับลูกค้าผู้ใช้งานทุกบริการ”

“True I dtac SECURITY” เพื่อความปลอดภัยในบริการดิจิทัล

ทรู ได้ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องการดูแลความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ในการให้บริการดิจิทัล โดยการปกป้องข้อมูลแบบรอบด้านมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส โดดเด่นด้วยการบริหารจัดการความปลอดภัยแบบบูรณาการ โดยมี 5 จุดเด่นสำคัญด้านความปลอดภัยสำหรับบริการดิจิทัล ได้แก่

• ระบบตรวจจับการบุกรุกโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตลอด 24 ชั่วโมง วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ไม่หวังดีที่ต่างจากพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าทั่วไป

• การใช้งานสถาปัตยกรรมซีโร่ ทรัสต์ (Zero-trust) ที่ออกแบบความปลอดภัยบนพื้นฐานการตรวจสอบอยู่เสมอ

• การใช้งานระบบข่าวกรองไซเบอร์ (Threat Intelligence Platform) 

• การพิสูจน์ตัวตนของลูกค้าด้วยระบบอี เควายซี (e-KYC) ตรวจสอบตัวตน 2 ชั้น ในการล็อกอินเข้าสู่ระบบในครั้งแรก 

• การดูแลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรู มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาบริการดิจิทัล เพื่อให้ชีวิตลูกค้าดียิ่งขึ้นทุกวัน ทั้งในด้านสื่อและความบันเทิง อย่าง TrueID แพลตฟอร์มความบันเทิง, ด้านโฮมโซลูชันและการอยู่อาศัยผ่าน True X รวมถึงบริการด้านสุขภาพผ่านแอป “หมอดี” ด้วย” 

พิเศษ! ลูกค้าทรู-ดีแทค มั่นใจ ทั้งปกป้อง คุ้มครอง ปลอดภัยยิ่งกว่าเมื่อมีกันและกัน

ทรู-ดีแทค ซีเคียวริตี้ ยังมาพร้อมความพิเศษสำหรับลูกค้า ลูกค้าแบบรายเดือน เมื่อสมัครแพคเกจ 5G Together+ และ 5G Better+  รับฟรีประกันชีวิตและอุบัติเหตุ ความคุ้มครองรวมสูงสุด 320,000 บาท 

ลูกค้าแบบเติมเงิน เมื่อเปิดเบอร์ใหม่ และ สมัครแพคเกจ 300 บาท จะได้รับเน็ต ค่าโทรฟรี พร้อมรับประกันความคุ้มครองชีวิต สะสมสูงสุด 270,000 บาท

ลูกค้าออนไลน์ สมัครเน็ตบ้าน ฟรี ประกันภัยที่อยู่อาศัยจากทิพยประกันภัย และ ประกันชีวิตกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จาก FWD คุ้มครองนาน 24 เดือน หรือ จะเลือกปกป้องโทรศัพท์มือถือ-แท็บแล็ตเครื่องใหม่ ด้วย dtac Mobile Care หรือ True Protech บริการดูแลส่งซ่อม-สูญหาย เริ่มต้นเดือนละ 39 บาท

โดยเป้าหมายของ True I dtac SECURITY ไม่เพียงแค่เสริมเกราะป้องกันระบบ แต่ด้วยศักยภาพของเทคโนโลยี และการให้บริการแบบมืออาชีพนี้ จะทำให้ ลูกค้าทรู-ดีแทคใช้ชีวิตยุคดิจิทัลได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่น โดยไม่มีความกังวลด้านความปลอดภัยของระบบทั้งหมดของห่วงโซ่การใช้งาน

ที่มาข้อมูลและรูปภาพ True Corporation