อิตาลีใช้ “เลเซอร์” ปลุกชีพ “เสาหินมาร์กุสออเรลิอุส” เผยประวัติศาสตร์ 1,800 ปี

นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญด้านการบูรณะในกรุงโรม ประเทศอิตาลี กำลังใช้เทคโนโลยี “ลำแสงเลเซอร์” ช่วยพลิกฟื้นความรุ่งโรจน์ของหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญที่สุดของโลก เพื่อขจัดคราบเขม่าและมลพิษที่สะสมมานานหลายทศวรรษ ให้กลับมาเปล่งประกายราวกับย้อนเวลากลับไปในอดีต

การบูรณะ “เสาหินมาร์กุส ออเรลิอุส” (Column of Marcus Aurelius) ในครั้งนี้ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ทำความสะอาดโบราณวัตถุที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอิตาลี โดยเสาหินอายุกว่า 1,840 ปีต้นนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติชัยชนะ ของจักรพรรดิมาร์กุส ออเรลิอุส (Marcus Aurelius) ที่มีเหนือเผ่าอนารยชนตามลุ่มแม่น้ำดานูบ

เจ้าหน้าที่จะใช้อุปกรณ์เลเซอร์แบบพกพา ยิงลำแสงที่มีความแม่นยำสูงลงบนพื้นผิวหิน ความร้อนจากแสง จะทำหน้าที่สลายคราบสกปรกและเขม่าดำจากมลพิษในเมืองหลวงให้หลุดออกไปโดยไม่ทำลายเนื้อหินเดิม เผยให้เห็นความงามของหินอ่อนคาร์รารา (Carrara) สีขาวบริสุทธิ์ที่ซ่อนอยู่ข้างใต้

เสาหินต้นนี้มีความสูงเกือบ 40 เมตร โดดเด่นด้วยงานแกะสลักที่คาดว่าสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 180 โดยเป็นลายแกะสลักนูนสูงแบบเกลียวที่วนรอบเสาถึง 23 รอบ เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครมากกว่า 2,000 ตัว ทั้งเหล่าเทพเจ้า ทหาร และสัตว์ป่า รวมถึงภาพขององค์จักรพรรดิ 

ภาพสลักเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นงานศิลปะที่ล้ำค่าเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนกับจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยแสดงให้เห็นถึงภาพของสงครามในยุคโรมันอย่างสมจริง ทั้งฉากการต่อสู้ การทำโทษศัตรู และภาพชีวิตของผู้คนในยุคนั้น

โครงการบูรณะนี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า โดยใช้งบประมาณราว 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 73 ล้านบาทซึ่งได้รับสนับสนุนจากเงินกู้ และเงินอุดหนุนของสหภาพยุโรป (EU) ที่มอบให้อิตาลีเพื่อการฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19

ปัจจุบัน เสาหินมาร์กุส ออเรลิอุส (Column of Marcus Aurelius)  ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิมท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยตั้งอยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาลและอาคารรัฐสภาของอิตาลี เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน ที่ยังคงร่องรอยความยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน