รู้ทันสัญญาณเตือน “น้ำป่าไหลหลาก” ป้องกันอันตรายได้

ในช่วงฤดูฝนที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับฝนตกหนักและตกต่อเนื่องหลายวัน สิ่งที่ประชาชนควรระมัดระวังเป็นพิเศษคือ น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งมักเกิดขึ้นในพื้นที่ราบต่ำหรือที่ราบลุ่มใกล้ภูเขาต้นน้ำ อันตรายเหล่านี้เกิดจากฝนตกหนักบนภูเขาติดต่อกันเป็นเวลานาน จนพื้นดินและต้นไม้ไม่สามารถดูดซับน้ำได้ทัน ส่งผลให้น้ำปริมาณมหาศาลไหลบ่าลงสู่พื้นที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน เกษตรกรรม และที่สำคัญคืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิต

ผู้เชี่ยวชาญด้านอุทกภัยแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังและสังเกตสิ่งผิดปกติดังต่อไปนี้

1. ฝนตกหนักต่อเนื่องนานเกิน 6 ชั่วโมง หรือวัดปริมาณน้ำฝนได้เกิน 100 มิลลิเมตรต่อวัน

2. เสียงน้ำดังผิดปกติ ได้ยินกระแสน้ำแรงกว่าที่เคย

3. ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาอันสั้น

4. สัตว์ป่าแตกตื่นผิดธรรมชาติ เช่น สัตว์หนีออกจากป่า มดหรือแมลงอพยพออกมาเป็นจำนวนมาก

5. มีเศษดิน โคลน กิ่งไม้ หรือหินไหลมากับน้ำ

6. สีน้ำเปลี่ยนเป็นขุ่นหรือแดงคล้ำ แสดงถึงตะกอนดินจำนวนมากที่ถูกพัดพามา

หากพบสัญญาณเตือนเหล่านี้ ควรตระหนักว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก ประชาชนควรปฏิบัติดังนี้

ติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เตรียมเสบียง ยารักษาโรค และสิ่งจำเป็นสำหรับกรณีต้องอพยพ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะบริเวณลำห้วย ร่องน้ำ และเชิงเขา หากมีการประกาศอพยพ ควรรีบเคลื่อนย้ายทันที ไม่ควรรอหรือฝืนอยู่ต่อ

แม้น้ำป่าไหลหลากจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน แต่หากเรารู้จักสังเกตสัญญาณเตือนและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ก็สามารถลดความเสียหายและปกป้องชีวิตได้ ที่สำคัญคือความร่วมมือของทุกครัวเรือนและชุมชนในการเฝ้าระวังและช่วยกันแจ้งข่าวสาร เพื่อให้ทุกคนปลอดภัยตลอดฤดูฝนนี้