รีเซต

ต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะเสียหายมากกว่าเป็นข่าว ห่วงรากขาด หากเจอพายุหนัก

ต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะเสียหายมากกว่าเป็นข่าว ห่วงรากขาด หากเจอพายุหนัก
มติชน
14 มิถุนายน 2565 ( 22:21 )
150

หลังจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะหมาก และอบต.เกาะหมาก จ.ตราด ร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการบริหารจัดการต้นตะบัน ในเกาะขายหัวเราะ หลังปรากฏเป็นข่าวว่า ว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าไปโหน นั่ง และโน้มกิ่ง และทำให้กิ่งหักรากถูกเหยียบจนได้รับความเสียหายนั้น

 

นายเลิศรบ สายทองพู่ ผู้อำนวยการกองช่าง อบต.เกาะหมากได้นำสื่อมวลชนเดินทางจากหาดคลองสน ต.เกาะหมาก เพื่อขึ้นเรือไฟเบอร์เดินทางไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาเดินทางไป 30 นาที ซึ่งในเวลา 17.30 น.น้ำทะเลท่วมเลยโคนต้นตะบันเเล้ว เหลือเพียงรากที่โผล่ขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อคณะสื่อมวลชนไปถึงได้พบสภาพของต้นตะบัน ซึ่งมีกิ่งด้านในหัก และกิ่งเล็กหลายกิ่งมีสภาพหักหายไป และรากด้านบนถูกเหยียบจนเปลือกเสียหาย เหลือเพียงเนื้อไม้อย่างเดียว ส่วนใบร่วงและมีสีเหลืองปนเขียว

 

และเมื่อมาตรวจด้านนอกที่เป็นรากขนาดใหญ่พบว่า รากเสียหายบางส่วนและมีรากบางส่วนงอกขึ้นมาทดแทนที่มีสีแดง รวมทั้ง ลำต้นเอนลงไปกว่าปกติที่เคยเป็นอยู่เดิมในช่วง 2-3 ปีที่ก่อนจะมีการโปรโมท และประชาสัมพันธ์

 

นายเสวย กาญจนพาสน์ อธิบายว่า สภาพของต้นตะบันในวันนี้ เทียบกับเมื่อ 2-3 ปีที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จักนั้น ต้นยังมีสภาพที่ต้นมีสภาพดี กิ่งอยู่ครบและต้นไม่เอียง รากจะสมบูรณ์ มีเปลือกหุ้ม แต่วันนี้สภาพต้นเสียหายทั้งด้านทิศตะวันตกเสียหายเพราะกิ่งหัก และใบร่วงหล่นไปบางส่วน มีกิ่งเล็กๆโดนตัดไป ยาวประมาณ 1 ศอก บริเวณเปลือกของต้นตะบันด้านบนยังสมบูรณ์แต่บริเวณโคนต้นไม่มีเปลือกหุ้มแล้ว แสดงว่าได้รับความเสียหายจากการเหยียบย่ำของนักท่องเที่ยว และการขึ้นไปปีนจนกิ่งใหญ่ได้รับความเสียหายไป ซึ่งส่งผลต่อความเเข็งแรงและความอยู่รอดของต้นตะบัน

นายเลิศรบ กล่าวว่า วันนี้สภาพรากปกติที่มีเปลือกนอกหุ่มขณะนี้ไม่มีแล้วเหลือเพียงเนื้อของรากเท่านั้น ขณะที่อีกด้านหนึ่งซึ่งจะพบว่าที่โคนต้นนั้น มีสภาพที่ทั้งเสียหายและรากที่เริ่มงอกขึ้นมาใหม่ แสดงว่า ต้นตะบันก็เริ่มปรับตัว ซึ่งหากเรายังปล่อยมีการท่องเที่ยวในสภาพนี้ต้นตะบันไม่น่าอยู่รอด จึงควรที่จะจำกัดนักท่องเที่ยวเข้าชม หรือการเข้าชมเป็นฤดูกาล รวมทั้งต้องรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวรู้จักการอนุรักษ์และดูแลแหล่งท่องเที่ยวด้วย ไม่ใช้การปีนปายเข้าไปเพราะเกาะขายหัวเราะรองรับนักท่องเที่ยวได้แค่ 5 คน เท่านั้นเมื่อไปอยู่บนเกาะ

ส่วนนายดิษพงษ์ อิ่มบุญ เจ้าของเรือนำเที่ยว กล่าวว่า วันนี้กลุ่มเรือประมงน้ำเที่ยวของเกาะหมากมีรายได้จากการนำส่งนักท่องเที่ยวไปชมเกาะขายหัวเราะคนละ 200 บาท และอยากฝากนักท่องเที่ยวขอให้ช่วยกันดูแลและปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือข้อตกลงเพื่อให้ต้นตะบันยังคงอยู่เพื่อเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวของเกาะหมากต่อไป

ด้านนายอิษฎา นายอิษฎา เสาวรส ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด กล่าวว่า วันนี้ทางททท.สำนักงานตราดคงจะต้องมาทบทวนในเรื่องของการส่งเสริมจุดขายทางการตลาดใหม่ของเกาะขายหัวเราะ เพื่อให้เกิดความรู้สึกสำนึกในเรื่องการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะหารือกับสำนักพิมพ์บันลือสาส์นเพื่อสร้างเรื่องราวใหม่ของต้นตะบันในเกาะขายหัวเราะเพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวมีความรู้สึกร่วมในการรักษาแหล่งท่องเที่ยว และจะร่วมมือกับหน่วยงานอื่นในการอบรมเทรนเนอร์เพื่อให้ชุมชนที่เข้ารวมอบรมสร้างเรื่องราวและเล่าเรื่องของเกาะขายหัวเราะในมุมมองใหม่ให้กับแหล่งท่องเที่ยวของเกาะหมากด้วย รวมทั้งการสร้างกิจกรรมเพื่อสังคม เช่น ให้นักท่องเที่ยวเป็นจิตอาสาด้วยการการปลูกประการัง และหญ้าทะเล เมื่อทำแล้วก็ให้เข้ามาสัมผัสเะขายหัวเราะได้ ซึ่งก็เป็นแนวทางที่ดี รวมทั้งขณะนี้ ทางททท.สำนักงานตราดได้ขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง