“AI พระเยซู” เปิดประสบการณ์ความศรัทธายุคดิจิทัล
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter’s Chape)l ในเมืองลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จัดนิทรรศการผลงาน “AI พระเยซู” ที่สามารถรับฟัง และพูดคุยกับผู้ศรัทธาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถสื่อสารได้ประมาณ 100 ภาษา เช่น ภาษาจีน อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮังการี อิตาลี รัสเซีย และสเปน
ผลงานนี้เป็นการพัฒนาของทีมผู้เชี่ยวชาญ จากมหาวิทยาลัยลูเซิร์น (Lucerne University) โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เชิงโต้ตอบ เช่น จีพีทีโฟร์โอ (GPT4o) ปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยทำความเข้าใจภาษา และการสร้างภาพอวตาร์ หรือตัวตนเสมือนจริง ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้
โดย “AI พระเยซู” จะอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่ซ่อนอยู่ในห้องสารภาพบาปภายในโบสถ์ เพื่อเปิดให้ผู้ศรัทธาเข้าไปปรึกษา พูดคุยเกี่ยวกับความศรัทธา ศีลธรรม และปัญหาในยุคปัจจุบัน และ AI จะให้คำตอบตามพระคัมภีร์ ซึ่งเป้าหมายของงานชิ้นนี้ คือการทดลอง และทำความเข้าใจว่า ผู้คนจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับ AI และจะพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง
โดยในช่วงระยะเวลาสองเดือนของการทดลอง ทีมพัฒนาเผยว่า มีผู้ชมมากกว่า 1,000 คน ที่ได้โต้ตอบกับอวตาร์ โดยส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า การได้ใช้เวลากับ AI พระเยซูนี้ เป็น “ประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ" ในขณะที่อีกส่วนให้เสียงตอบรับที่ไม่ค่อยดีนัก โดยมองว่าเป็นการ “ดูหมิ่นศาสนา” เพราะเลียนแบบการสารภาพบาป หรือบางทีก็ได้คำตอบที่ค่อนข้างซ้ำซาก
อย่างไรก็ตาม ทางผู้พัฒนาย้ำว่า ไอเดียของผลงานนี้ ไม่ได้ต้องการมาทดแทนปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ หรือการสารภาพบาปกับนักบวช หรือมีเจตนาดูหมิ่นแต่อย่างใด แต่เพื่อกระตุ้นให้เกิดการอภิปราย เกี่ยวกับบทบาทของ AI ในศาสนา รวมถึงการตระหนักถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของ AI ในชีวิตมนุษย์ และความไว้วางใจของมนุษย์ ที่มีต่อเครื่องจักร
แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ้าง แต่ "AI พระเยซู" ก็ได้จุดประกายความสนใจ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสนาที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ โดยตระหนักถึงข้อจำกัดและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมศรัทธา และนำพามนุษย์ไปสู่ความเข้าใจใน "พระเจ้า" และ "ตนเอง" ได้อย่างแท้จริง
ข้อมูลจาก apvideohub, theguardian, nypost, vice