รีเซต

"กองสลาก"  แจง “กมธ.กฎหมาย” ปมลอตเตอรีแพง ผอ.กองสลาก โต้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่มีอำนาจ

"กองสลาก"  แจง “กมธ.กฎหมาย” ปมลอตเตอรีแพง ผอ.กองสลาก โต้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่มีอำนาจ
มติชน
2 ธันวาคม 2564 ( 13:48 )
78
"กองสลาก"  แจง “กมธ.กฎหมาย” ปมลอตเตอรีแพง ผอ.กองสลาก โต้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่มีอำนาจ

“กองสลาก”  แจง “กมธ.กฎหมาย” ปมลอตเตอรีแพง ด้าน “สิระ” ข้องใจ ทำไมไม่ดำเนินคดีแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่จับปชช. “ผอ.กองสลาก” โต้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ไม่มีอำนาจ

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธาน กมธ. เป็นประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาศึกษาเรื่องร้องเรียนกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลแพงเกินราคาที่รัฐกำหนด มีการเชิญนายจีระศักดิ์ น้อยก่ำ ประธานชมรมเครือข่ายผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อย จ.เลย นายพัชรณัฏฐ เจียระพงษ์ ผู้ซื้อและผู้ขายสลากออนไลน์ ในฐานะผู้ร้องเรียน และพันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายทวีป วุฒิบาทุกาจิตต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ เข้าชี้แจง

 

โดยนายจีระศักดิ์ กล่าวว่า ลอตเตอรีใน จ.เลย ไม่เพียงพอต่อผู้ที่ต้องการขายจนทำให้เกิดปัญหาขายเกินราคา ซึ่งราคาลอตเตอรีที่สำนักงานกองสลากฯ ส่งให้ผู้ค้าโดยตรงที่อยู่ในระบบโควตาอยู่ที่ 70.40 บาท แต่ราคาลอตเตอรีที่ขายให้ผู้ค้ารายย่อยอยู่ 94-95 บาท การที่ลอตเตอรีถูกเปลี่ยนมือจากผู้ที่มีโควตาเป็นต้นเหตุของลอตเตอรีแพง ซึ่งมีตัวแปรคือแพลตฟอร์มลอตเตอรีออนไลน์ บางแพลตฟอร์มกำหนดขาย 80 บาท แต่บวกค่าบริการ 20 บาท จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและดูแลในส่วนนี้ และขอเสนอแนวทางแก้ไข คือ 1.ให้ผู้ค้าลอตเตอรีรายย่อยมีใบอนุญาตโดยตรง 2.อยากให้หน่วยงานตัดโควตาบุคคลใดที่นำลอตเตอรีไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ 3.ออกกฎหมายควบคุมการรวมเล่ม และ 4.มีระบบลงทะเบียนปลายทางเพื่อป้องกันลอตเตอรีเปลี่ยนมือ

 

ด้านนายพัชรณัฏฐ กล่าวว่า ปัจจุบันการขายสลากในแพลตฟอร์มออนไลน์มี 2 ระบบ คือ 1.กว้านซื้อลอตเตอรีในราคาท้องตลาด นำมาสแกนในระบบและจำหน่ายราคา 100 บาท ซึ่งขายได้ 1 ล้านใบต่องวด โดยหลังจากมีคนถูกรางวัลก็จะโอนเงินให้เลย ซึ่งจะได้เปอร์เซ็นต์จากลูกค้าที่ถูกรางวัลอีก 2% และ 2.นำสลากไปสแกนผ่านแพลตฟอร์ม โดยคิดค่าสแกนใบละ 5 บาท แต่ต้องมีสลาก 1 หมื่นใบขึ้นไป ขายได้ประมาณ 3 ล้านใบต่องวด ซึ่งเราเดือดร้อนเพราะต้นทุนลอตเตอรีราคาสูง คิดว่าสาเหตุเริ่มต้นจากการมีแพลตฟอร์มออนไลน์และไปกว้านซื้อลอตเตอรีในราคาสูงนำมาขาย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงหนึ่งของการประชุมนายสิระได้ตั้งคำถามตัวแทนจากกองสลากฯ ว่า สาเหตุใดจึงไม่มีการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งที่พบว่ามีความผิดทั้งการได้มาและขายเกินราคา มีการรับสินบนหรือไม่ ปล่อยปละละเลยหรือไม่ เพราะปัจจุบันกองสลากดำเนินคดีกับประชาชนทั่วไป แต่กลับไม่ทำอะไรเลยกลับแพลตฟอร์มทั้งที่เป็นคู่ค้าขนาดใหญ่

 

 

ขณะที่พันโทหนุน ชี้แจงตอนหนึ่งว่า ในส่วนของการเพิ่มจำนวนสลากต้องเป็นดีมานด์ซัพพลายจริงๆ เราสามารถพิมพ์ให้คนขายทั้งหมดได้ แต่เขาจะขายสลากได้หรือไม่เพราะคนซื้อไม่ได้มีมากกว่านี้แล้ว ซึ่งสาเหตุที่สลากเกินราคาเพราะผู้ค้ารายย่อยไม่นำสลากไปขายตามราคา ทั้งที่ได้สลากในราคาต้นทุน ส่วนที่บอกว่าเราจับแต่รายย่อยเพราะอำนาจของเรามีเท่านั้น และเราไม่ได้เป็นคนจับเพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่หากตรวจพบเรายกเลิกโควตา ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มหรือแผงขาย แล้วโยนกลับมาในระบบซื้อ-จอง เราไม่มีอำนาจควบคุมแพลตฟอร์มแต่สามารถควบคุมคนรับสลากจากเราได้ นอกจากนี้ เรายังมีการร้องทุกข์กล่าวโทษทุกแพลตฟอร์มที่ขายเกินราคาทุกเดือนและทุกแพลตฟอร์ม รวมถึงประสานกับ ปคบ. ในการตรวจจับแพลตฟอร์ม ทั้งนี้ กฎหมายของสำนักงานกองสลากฯ มีอยู่ข้อเดียว คือ เรื่องขายเกินราคา เป็นความผิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ยืนยันว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ

 

 

ทั้งนี้ ก่อนจบการประชุม นายสิระ ได้ประกาศจะควักเงิน 30,000 บาทให้เจ้าหน้าที่ไปล่อซื้อลอตเตอรีจากแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อยืนยันว่ามีการขายเกินราคา 80 บาทจริง ซึ่งพันโทหนุน ระบุว่า หากไปล่อซื้อได้จริง ตนจะเป็นผู้ดำเนินคดีด้วยตนเอง

โดยนายสิระ ยืนยันอีกว่า กมธ.กฎหมายจะปราบปรามเรื่องนี้ให้หมดสิ้น ทั้งพิสูจน์ให้ได้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีสลากขายจริงหรือไม่ และขายเกินราคาหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง