มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย เป็นอีกแหล่งเรียนรู้ ที่สามารถเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับนักเรียน ม.ปลาย ที่กำลังจบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคณาจารย์ที่มีคุณวุฒิการศึกษาอย่างมีคุณภาพ อีกทั้งยังอบรม บ่มสอน ชี้แนะแนวทาง บัณฑิตให้มีศักยภาพไม่แพ้มหาวิทยาลัยอื่น เพื่อที่จะจบออกไปพัฒนาอนาคตประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีจริยธรรมในอาชีพ ถ้าทุกท่านสนใจ ผู้เขียนจะพาท่านไปรู้จักมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย โดยการเล่าจากประสบการณ์ที่ได้เรียนที่นี่กันค่ะ เมื่อเริ่มแรกที่ย่างก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย คณะบัญชีบัณฑิต หลักสูตร 4 ปี กิจกรรมเริ่มแรกที่ประทับใจตอนเรียนในมหาวิทยาลัยนี้ คือ กิจกรรมรับน้องใหม่ "ปาน้องเตวรอบฮั้ว" เป็นการรับน้องใหญ่ที่รวมทุกคณะ ทุกสาขา มาร่วมสนุกกัน ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากๆ นี่คือเราโตแล้วเหรอ เราได้รับรู้ถึงการเป็นนักศึกษาอย่างเต็มตัว และได้ใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ตอนนั้นจัดกิจกรรมรับน้อง แบ่งเป็น 2 วัน คณะนี้ไปวันนี้ อีกคณะไปอีกวัน แล้วพอถึงวันจริงต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมงเพื่อเตรียมตัวแต่งตัว ชุดที่ใส่ไปก็จะเป็นชุดพร้อมทิ้ง เพราะแน่นอน! ต้องเปื้อนดินโคลนแน่ๆ ฮ่าๆ พอแต่งตัว กินข้าวเสร็จก็มุ่งหน้าตรงไปที่สนามกีฬากลางให้ทันเวลาที่รุ่นพี่สโมคณะนัดไว้ พอไปถึงก็เจอรุ่นพี่หน้าไม่โหดแต่อยู่ในโหมดน่ารัก ยืนรอถือธงคณะ รอรับรุ่นน้องอยู่ที่ขอบสนาม แล้วก็มีเสียงเพลงที่รุ่นพี่ชมรมดนตรี มาร้องรอรับน้องๆ ให้บรรยากาศผ่อนคลายมากๆ ค่ะ แล้วเราก็ไปนั่งรอในแถวตามที่ได้รับตอนประชุมปฐมนักศึกษาใหม่ ซึ่งเราได้เลข 4 แยกกันอยู่กับเพื่อนที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่นาน 8 โมง เพื่อนๆ ในคณะมากันครบพี่ๆ สโมก็พาเราเดินเข้าไปในสนามกีฬากลาง มีเพื่อนๆ อีกหลายคณะมารวมกันที่สนามกีฬา รู้สึกตื่นเต้นมากๆ เพราะจะได้ไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ต่างคณะตามหมายเลขที่ได้ พอเซ็นชื่อรับป้ายเสร็จพี่ๆ ก็พาไปนั่งตามเลขฐาน ดีที่ยังพอมีเพื่อนที่รู้จักตามมาจาก รร.เดียวกัน เข้ามาอยู่ด้วยเลยไม่เหงาละค่ะ ฮ่าๆ พอถึงเวลา กิจกรรมก็เริ่มขึ้นมีพี่ๆ จากชมรมสันทนาการมาบูมแล้วก็เต้นเพลงสันฯ รับน้องปีการศึกษา 2561 ตอนนั้นรู้สึกว่าพี่เขาร้องเพลงสันฯ ไป 20 กว่าเพลง โอโห้! พี่เขาร้องกันได้อย่างไร จำเนื้อร้องกันได้อย่างไร แต่ละคนเต้นกันแบบแรงไม่ตกกันเลยทีเดียวค่ะ ยอมรับเลยค่ะว่าพี่ๆ เขาตั้งใจซ้อมกันขนาดไหน เพื่อที่จะให้น้องๆ ได้รู้สึกประทับใจในการเข้ามาในมหาวิทยาลัยนี้ ก่อนที่จะปล่อยแต่ละฐาน เดินตามพี่เดิน ซึ่งพี่เดิน 2 คณะ 10 กว่าคน มาคุมมาพาน้องๆ เดินตามพี่ๆ เขา ตอนแรกพี่เดิน จะแยกน้องที่ป่วย กับน้อง ผญ.ที่เป็นประจำเดือนออก เพราะจะมีการเปื้อนน้ำเปื้อนโคลน และเก็บของที่มีค่า พวกกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ นาฬิกา กุญแจต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในการรักษาทรัพย์สินของน้องๆ ใส่กล่อง พี่เดินจะถือกล่องนั้นไปด้วยทุกที่ ฐานเรามีประมาณ 200 - 300 กว่าคน พี่เขาห่วงความปลอดภัยของน้องๆ มาก และมีหน่วยกู้ภัยมหาลัยตรวจตราเป็นระยะๆ ฐาน4 จะเดินไกลมากๆ ค่ะ เพราะเป็นฐานแรก และเป็นฐานประจำของเรา ถึงเวลาก็เดินจากสนามกีฬากลางเดินไปเกือบถึงหน้าสวนสมเด็จย่า พอใกล้ถึงฐาน พี่เขาให้หยุดพักสักแปบ แล้วจากนั้นพี่เขาส่งสัญญาณมา และตะโกนให้วิ่ง เราไม่รู้อะไร ก็รีบวิ่งกันเร็วมากๆ พอถึงฐาน ก่อนจะเข้าฐานมันจะมีเนินขึ้นที่เต็มไปด้วยโคลนด้วยน้ำ ไข่เน่า และซันไลต์ ตอนนั้นคิดในใจแบบโอโห้ โดนเข้าแล้ววว เล่นกันแบบนี้เลยเหรอ แต่ก็ต้องรีบทำเวลา เพราะมีเวลาแต่ละฐาน 40 นาที เราก็รีบวิ่งขึ้นไปโดยไม่ให้อะไรที่ติดตัวเราหลุดออก เพราะจะมีพี่ฐานที่จะคอยแกล้งคอยเก็บของของเราไว้ไปแกล้งพี่เดินเพื่อที่จะให้พี่เดินเขาเต้นแลกของให้น้อง ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยโคลน คือเละแบบเละที่สุดในชีวิตเลยค่ะ กลิ่นไข่เน่านี่เหม็นมาก ถุงเท้ารองเท้าเปื้อนน้ำเปื้อนโคลนมากๆ ค่ะ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี พอเพื่อนๆ เรามากันครบพี่ๆ ก็ให้พวกเรานั่งกันเป็นแถว จากนั้นพี่ฐานก็เริ่มแนะนำตัวและแนะนำฐาน 4 ว่า ทำอะไรบ้าง จากนั้นพี่เขาก็เดินไปหาเพื่อนในกลุ่มฐานของเราเพื่อที่จะเลือก ป้อหลวง แม่หลวง ผัวน้อย เมียน้อย ประจำฐาน และมอบป้าย มอบมงกุฎ เพื่อที่จะได้นำลูกบ้านไปพบกับพี่ฐาน ฐานต่อๆ ไป พอเลือกเสร็จ พี่เขาก็คิดท่า และเพลงประจำฐาน เพื่อที่จะเต้นแนะนำตัวให้พี่ฐานแต่ละฐาน ฮ่าๆ ตอนนั้นฐานเราน่าจะได้เพลง หนอนน้อยขยุมๆ พอฝึกเต้นจนคล่อง ก็ให้ป้อหลวงสั่งให้สวัสดีพี่ฐาน แนะนำท่าเต้นและเพลงประจำฐาน พอเสร็จจากนั้นก็ถึงเวลาที่มีสาระ พี่ฐานก็สอนร้องเพลงของมหาวิทยาลัย และเพลงต่างๆ พอเสร็จจากสาระ ก็มาผ่อนคลายด้วยเกมต่าง และก็มีการแกล้งกันเล็กน้อย พอหมดเวลาก็เปลี่ยนฐาน และเดินไปตามทางที่พี่เดินพาไป ระหว่างเดินไปอีกฐาน ก็เจอเพื่อนๆ ฐานอื่นเดินสวนกัน แต่ละคนหันมามองฐานเราว่าเห้ย! เละขนาดนี้เลยหรอ คงมีหวั่นๆ แน่ๆ ฮ่าๆ ฐานพวกเราก็ตะโกนบอกเพื่อนอีกฐานว่า มรึงเจอแน่ๆ ฮ่าๆ จากนั้นก็เวียนไปแต่ละฐาน พักเที่ยงก็กินข้าว 30 นาที แล้วก็เริ่มทำกิจกรรมอีกครั้ง เวียนไปจนครบฐานก็เสร็จประมาณ 4 โมงครึ่ง ก็ไปรวมตัวกันที่สนามกีฬากลาง มีดนตรีบรรเลงเพื่อความผ่อนคลาย ใครอยากเข้าห้องน้ำก็เข้า จากนั้นก็มีการสันทนาการขึ้นอีกครั้ง และชวนให้น้องๆ เต้นร่วมกับพี่ๆ เป็นวันที่สนุกมากๆ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยส่วนตัวเราชอบวิธีการรับน้องของมหาวิทยาลัยนี้มากเลยค่ะ ไม่อันตราย ไม่แกล้งน้องแบบอนาจาร ส่วนมากมีแต่เปื้อนน้ำเปื้อนโคลน เปื้อนแป้ง ได้สอดแทรกกิจกรรมที่มีสาระอยู่เสมอ และได้แนะนำสถานที่ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ประวัติแต่ละที่ และยังกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนต่างคณะ และรุ่นพี่ ถือเป็นประสบการณ์แรกในมหาวิทยาลัยที่ประทับใจมากค่ะ พอเสร็จจากกิจกรรมรับน้อง ก็ต่อด้วยกิจกรรมรับเข็มพระราชทาน และมอบตัวเป็นศิษย์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายอย่างเต็มตัว เป็นกิจกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ มากๆ เลยค่ะ ท่านอธิการบดี กล่าวเปิดงาน และร้องเพลงสดุดีราชภัฎ และเพลงมารช์มหาวิทยาลัย และมีการมอบประกาศนียบัตร และทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาปีที่แล้วที่เรียนได้เกรดเฉลี่ยระดับต้นๆ ของแต่ละคณะ สาขา ซึ่งตอนนั้นเรานั่งฟังก็รู้สึกมีแรงบรรดาลใจในการเรียนเพื่อที่จะประสบความสำเร็จเหมือนพี่ๆ เขา พอเสร็จจากพิธีนี้ ก็เป็นพิธีมอบตัวเป็นศิษย์ และมอบเข็มราชภัฎ ซึ่งจะมีคณะอาจารย์แต่ละคณะมานั่งบนเวที เรียงกันเพื่อที่จะมอบเข็มอันทรงเกียรตินี้ให้นักศึกษา พิธีกรจะเรียกให้ขึ้นไปรับเป็นคณะๆ พอถึงคณะเรา ก็ตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ พอไปนั่งก็นั่งกับอาจารย์คณะเราพอดี ท่านก็มีการถามไถ่ แล้วมอบเข็มให้ จากนั้นก็ลงมานั่งที่เดิม เป็นความภาคภูมิใจมากเลยค่ะ ตามภาพข้างล่างเลยนะคะ เมื่อทุกท่านได้ทราบกิจกรรมที่ประทับใจของผู้เขียนที่ได้ศึกษา ในมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายแล้ว และต่อจากนี้ผู้เขียนจะพาไปรู้จักมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายกันนะคะ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย มีทั้งหมด 13 คณะ 41 สาขา โดยจะเน้นการสอนเชิงอธิบายและเชิงปฏิบัติค่ะ และมีหอสมุดขนาดใหญ่ที่มีแหล่งความรู้ ข้อมูลต่างๆ รวบรวมอยู่ในห้องสมุด ไว้ให้ นศ. ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมและยังมีอิเล็กทรอนิกส์ไว้ศึกษาข้อมูลที่ทันสมัย โดยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ทางมหาวิทยาลัยมีศูนย์โรงอาหารให้ นศ. และผู้เดินทางมามหาวิทยาลัย ให้รับประทานอาหาร อยู่ 2 ที่ ศูนย์แรก อยู่ข้าง ร.ร.สาธิต (ตรงข้ามไฟแดงในมอ) ส่วนศูนย์โรงอาหาร 2 (อยู่ตรงด้านล่างของตึก 26) อีกทั้งยังมีเซเว่นฯ ในมอ และร้านค้าสะดวกซื้อหน้ามอ จำนวนมาก มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ยังมีสนามกีฬาหลากหลายชนิด ให้ นศ.ออกกำลังกาย อาทิ สนามเทเบิลเทนนิส สนามวอลเลย์บอล สนามบาสเกตบอล สระว่ายน้ำ โรงยิม สนามกอล์ฟ สนามฟุตบอล สนามแบดมินตัน สนามตะกร้อ และอีกหลายชนิดกีฬา ให้ผู้คนได้มาออกกำลังกายกัน และยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านทั่วจังหวัดเชียงราย มาออกกำลังกายกันที่นี่ จุดที่เป็นศูนย์พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายนั้นก็คือ สวนสมเด็จย่า ที่ นศ.ในมหาวิทยาลัย ไม่มีใครไม่รู้จัก ที่นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนมาออกกำลังกาย และพักผ่อนสมองจากการเรียนในช่วงเย็น และมีสวนดอกไม้ที่สวยงาม มีความสะอาด รมรื่น และอากาศเย็นสบาย เปิดให้เข้าชมฟรี และมีจุดศูนย์กลาง คือ รูปปั้นของสมเด็จย่า ตั้งอยู่กลางสวน และทุกวันพฤหัสฯ จะมี "กาดในมอ" ตั้งอยู่ตรงข้ามหอประชุม มีของมาขายให้ นศ. ได้เลือกซื้อกันอย่างหลากหลายเลยนะคะ กิจกรรมในมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงรายในมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมที่ นศ.ในรั้ว มร.ชร. ได้เข้าร่วม และเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ด้วยนะคะ เช่น ไหว้สาแม่ฟ้าหลวง, รับน้องใหม่ปาน้องแอ่วรอบฮั้ว CRRU., Freshy night, กีฬา Freshy gams, กีฬามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย, สืบสารประเพณีทอดผ้าป่า, ถวายเทียนพรรษา, สืบสานประเพณีลอยกระทง, สืบสานประเพณีสงกรานต์ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ แฟนเพจเฟสบุ๊ก มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย