จีนจ่อแซงสหรัฐ! รั้งเบอร์ 1 มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก-ชี้ตัวแปรรับมือโควิดดีกว่า
จีนจ่อแซงสหรัฐ! - วันที่ 27 ธ.ค. รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ ระบุจากรายงานประจำปีของศูนย์วิจัยเพื่อเศรษฐศาสตร์และธุรกิจ (CEBR) ว่า ประเทศจีน จะขึ้นแท่นเป็นประเทศ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก แซงหน้า สหรัฐอเมริกา ในปี 2571 หรืออีก 8 ปีข้างหน้า เร็วขึ้นกว่าผลประเมินก่อนหน้านี้ถึง 5 ปี โดยมีปัจจัยสำคัญคือมาตรการรับมือกับวิกฤต โรคโควิด-19
แถลงบางส่วนจากศูนย์วิจัยเพื่อเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระบุว่าเศรษฐศาสตร์โลกผันผวนไปตามการต่อสู้ทางเศรษฐกิจและซอฟต์เพาเวอร์ หรืออำนาจอ่อน ซึ่งเป็นการดำเนินนโยบายเพื่อสร้างอิทธิพลดึงดูแทนการบังคับ ของสองชาติมหาอำนาจโลกระหว่างสหรัฐและจีน
แต่การการระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 และการตอบสนองต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาวะดังกล่าวมีส่วนต่อการแข่งขันนี้โดยส่งเสริมกับฝ่ายจีนมากกว่า การจัดการกับโรคระบาดอย่างมีทักษะด้วยมาตรการล็อกดาวน์คุมเข้มตั้งแต่เนิ่นๆ ในขณะที่ชาติตะวันตกเผชิญกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะงักงัน หมายความว่าการดำเนินการด้านเศรษฐกิจของจีนมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
จีนคาดการว่าจะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยที่ร้อยละ 5.7 ในปี 2564-2568 และจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2569-2573
ส่วนเศรษฐกิจของสหรัฐน่าจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังสถานการณ์โรคระบาดอยู่ภายใต้การควบคุมในปี 2564 อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะเป็นไปอย่างช้าๆ ที่ร้อยละ 1.9 ระหว่างปี 2565-2567 และจะปรับเป็นเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.6 หลังจากช่วงดังกล่าว
ญี่ปุ่นจะยังรั้งประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 3 ของโลก แต่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 2030 หรืออีกกว่า 10 ปีข้างหน้า อินเดียจะผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกอันดับ 3 และทำให้เยอรมนีที่รั้งอันดับ 4 ร่วงลงไปอยู่ที่อันดับ 5 ตามหลังญี่ปุ่น ส่วนสหราชอาณาจักรที่ปัจจุบันครองอันดับ 5 จะหลุดท็อปไฟว์ไปอยู่อันดับ 6 นับจากปี 2567
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: