แม่ดับเดือนครึ่งเผาไม่ได้ พิษท่วมเมรุ-เก็บศพที่บ้าน

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ทยอยการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนลดลงเล็กน้อย น้ำยังคงท่วมสูงในหลายพื้นที่ พบว่าที่ชุมชน ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำยังท่วมสูง 2.5-3 เมตร ชาวบ้านยังต้องใช้ชีวิตประจำวันอย่างยากลำบากมาเป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่ม

นายสุเทพ ทรัพย์มาก อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ต.วัดตะกู อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา อาศัยอยู่ตรงข้ามกับวัดตะกู พาผู้สื่อข่าวสำรวจพื้นที่ พบว่าน้ำในคลองบางหลวงรับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยายังไหลเชี่ยวแรง สภาพบ้านของนายสุเทพถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ท่วมถึงพื้นบ้าน ต้องหนุนพื้นบ้านเพื่อเก็บข้าวของและพักอาศัย

ครอบครัวและญาติยังต้องเก็บรักษาร่าง นางทองหยิบ ทรัพย์มาก อายุ 81 ปี มารดาที่เสียชีวิตด้วยโรคชรา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กันยายน บรรจุใส่โลงศพเอาไว้ หลังการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน เป็นช่วงน้ำในคลองบางหลวงล้นตลิ่งเข้าท่วมในชุมชนและวัดตะกู ต้องเก็บศพไว้ในบ้าน ไม่สามารถนำไปประกอบพิธีฌาปนกิจ เนื่องจากเมรุวัดตะกูและวัดข้างเคียงถูกน้ำท่วมสูง

นายสุเทพกล่าวว่า บ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร น้ำท่วมมาถึงพื้นบ้าน ต้องหนุนพื้นหนีน้ำ อาศัยพักหลับนอนรวมด้วยกันทั้งหมด 3 คน ตั้งโลงศพคุณแม่ไว้ชิดติดกับเรือนด้านใน ตนกับลูกและหลานจะนอนด้านนอก นอนกับคุณแม่ที่นอนอยู่ในโลงอย่างอบอุ่น ทุกคนไม่รู้สึกกลัว บางวันลูกสาวอยู่บ้านคนเดียวก็อยู่ได้ไม่กลัวแต่อย่างไร

ด้านลูกสาวนายสุเทพกล่าวว่า ฝากถึงกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง น้ำท่วมสูงขนาดนี้อย่าบอกว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เป็นการท่วมซ้ำซากทุกปีแบบนี้ ขอฝากไปถึงผู้บริหารจัดการน้ำน่าจะมีแนว หรือวิธีคิดไม่ให้น้ำมาท่วมบ้านเรือนประชาชนเดือดร้อนผิดธรรมชาติแบบนี้