นักวิเคราะห์ ชี้ทองคำจบรอบขาขึ้น เข้าสู่ช่วงปรับฐาน! สวนทาง Bitcoin จ่อทำ New High

คุณนิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันการลงทุน QIQP บล.ไอร่า จำกัด (มหาชน) วิเคราะห์ทิศทางราคาทองคำและ Bitcoin ผ่านรายการ WEALTH LIVE (16 พ.ค. 68) ว่า ทองคำได้จบรอบการขึ้น (จากช่วง 2,900-3,000 ดอลลาร์ฯ ขึ้นมา) และกำลังเข้าสู่ ช่วงของการปรับฐาน โดยกลยุทธ์ระยะสั้นคือ "เด้ง Short" ขณะที่ Bitcoin กำลังจะเข้าสู่จังหวะการขึ้นรอบใหม่ มีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดเดิมและลุ้นแตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ชี้กลยุทธ์สำคัญกว่าเป้าหมายราคา

ทองคำ: จบรอบขึ้น เข้าสู่การปรับฐาน - แนะ "เด้ง Short"

คุณนิพนธ์มองว่า ทองคำได้จบรอบการขึ้นที่เรียกว่า "คลื่น 5" ไปแล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงปรับฐาน อินดิเคเตอร์ชี้ว่าเป็นขาลงในระยะสั้น

• กลยุทธ์ระยะสั้น (ประมาณ 1 เดือน): "เด้ง Short" (Short เมื่อมีการดีดตัวขึ้น) โดยมีจุด Stop Loss ที่ 3,250 ดอลลาร์ฯ
• แนวรับสำคัญ: จับตาดูบริเวณ 3,084 ดอลลาร์ฯ หรือระดับจิตวิทยา 3,000 ดอลลาร์ฯ ซึ่งอาจมีการดีดตัวสั้นๆ ก่อนประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากปรับฐานลึกอาจลงไปถึงโซน 2,857 หรือ 2,934 ดอลลาร์ฯ ได้ การปรับฐานลงราว 500-1,000 เหรียญจากจุดสูงสุดเป็นเรื่องที่เป็นไปได้
• ภาพระยะยาว: การปรับฐานครั้งนี้ ยังไม่ถือว่าเป็นการจบรอบใหญ่ของทองคำ และยังมีโอกาสกลับมาขึ้นได้อีกในอนาคต โดยปัจจัยพื้นฐานเรื่องการป้องกันเงินเฟ้อจากการพิมพ์เงินของธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกยังคงอยู่ และมีโอกาสเห็นราคาทองคำที่ระดับ 4,500 ดอลลาร์ฯ ได้ในอนาคต (อาจเป็นหลักหลายเดือน ไม่ใช่ 5-10 ปี) แต่การระบุช่วงเวลาชัดเจนเป็นเรื่องยาก

Bitcoin: เตรียม "ชู๊ตขึ้น" รอบใหม่ - ลุ้น $100,000

คุณนิพนธ์วิเคราะห์ว่า สถานการณ์ของ Bitcoin ตรงกันข้ามกับทองคำในขณะนี้ โดย Bitcoin กำลังจะเข้าสู่จังหวะการปรับตัวขึ้นรอบใหม่ คล้ายกับช่วงที่ทองคำเคยทะยานผ่าน 3,000 ดอลลาร์ฯ

• กลยุทธ์: สำหรับผู้ที่มี Bitcoin อยู่แล้ว แนะให้ "ถือเพื่อรอขาย" เมื่อราคา "ชู๊ตขึ้นแรงๆ" คล้ายกับอารมณ์ตลาดตอนที่ทองคำพุ่งไปถึง 3,500 ดอลลาร์ฯ ส่วนผู้ที่ยังไม่มีสถานะ การเข้าซื้อ ณ จุดนี้มีความเสี่ยงมากกว่าช่วง Breakout ที่ผ่านมา (84,000-89,000 ดอลลาร์ฯ)
• เป้าหมาย: มีโอกาสกลับไปทดสอบ จุดสูงสุดเดิม และลุ้นทำ New High โดยมีเป้าหมายในใจที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ฯ
• สถานะปัจจุบัน: Bitcoin ยังไม่ได้อยู่ในภาวะที่คนแห่เข้าซื้อด้วยความโลภ แต่ยังอยู่ในช่วงลังเล ซึ่งยังไม่ถือเป็นจุดขาย

กลยุทธ์สำคัญกว่าเป้าหมาย" - เตือนใจนักลงทุน

คุณนิพนธ์ย้ำว่า "กลยุทธ์สำคัญกว่าเป้าหมาย" การตั้งเป้าหมายราคาอาจเป็นเพียง Reference Point ที่ทำให้คนคล้อยตามและตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์ (ความโลภ/ความกลัว) ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสียหายได้ การมี "สติ" ในการลงทุน การบริหารความเสี่ยง และการทำความเข้าใจสภาวะตลาดเป็นสิ่งสำคัญกว่าการไล่ตามเป้าหมายราคาที่นักวิเคราะห์ให้ไว้