F-16 ไต้หวันส่งมอบช้า จนพนักงาน Lockheed Martin ต้องทำ OT เร่งการผลิต !

ไต้หวันเปิดเผยว่า ทางการสหรัฐอเมริกากำลังเร่งการผลิตเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 Block 70 หรือ F-16V Viper ที่ไต้หวันสั่งซื้อ จนถึงขั้นให้พนักงานของบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) และผู้รับเหมาที่เกี่ยวข้อง ทำงานล่วงเวลา (OT) หลังจากที่ F-16 Block 70 ลำแรก จากคำสั่งซื้อทั้งหมด 66 ลำ เพิ่งส่งมอบได้ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

ไต้หวันเจออุปสรรคการจัดหา F-16V รุ่นใหม่ 

สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) ระบุว่า กระทรวงกลาโหมไต้หวันมีรายงานปัญหาการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ F-16V ทั้งหมด 66 ลำ ซึ่งเดิมคาดว่าจะส่งมอบได้ภายในสิ้นปี 2026 ได้ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากปัญหาสายการผลิต

ในรายงานระบุว่า หลังจากที่ไต้หวันร้องเรียนไปทางสหรัฐฯ ผู้รับเหมาจึงทำงานสองกะ โดยกินเวลา 20 ชั่วโมงต่อวัน โดนเครื่องบินของ Lockheed Martin อยู่ในสายการผลิตแล้ว 50 ลำ โดยคาดว่า 10 ลำแรก จะเข้าสู่การทดสอบการบินในปีนี้และส่งมอบได้ในปี 2026 นี้

ทั้งนี้ ไต้หวันสั่งซื้อ F-16V ทั้งหมด 66 ลำ พร้อมชิ้นส่วนอะไหล่ มูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 259,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ที่ล้าสมัยอย่าง Mirage-2000 จากฝรั่งเศส และ F-5 จากสหรัฐอเมริกา รวมถึงมีโครงการปรับปรุง F-16 ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีความสามารถเทียบเท่า F-16V ด้วยเช่นกัน

F-16V คืออะไร

F-16V Viper เป็นเครื่องบินขับไล่ F-16 รุ่นปรับปรุงที่ทันสมัยที่สุด (F-16 Block 70 หรือ 72 สำหรับแบบ 2 ที่นั่ง) มีจุดเด่นในด้านการปรับปรุงระบบเรดาร์เป็น AESA ซึ่งถือเป็นหนึ่งในระบบเรดาร์บนเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัยที่สุดในโลกแบบ APG-83 

รวมถึงการปรับปรุงระบบควบคุมการบิน ระบบสั่งการด้วยคอมพิวเตอร์ หน้าจอแผงควบคุมที่ทันสมัยมากขึ้น หรือระบบต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ที่เรียกว่าไวเปอร์ ชิลด์ (Viper Shield) พร้อมเพิ่มความสามารถในการลอบเร้น (Stealth) ให้ใกล้เคียงกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 มากขึ้น

(อ่านรายละเอียด F-16V ได้ที่นี่)

ไต้หวันซื้ออาวุธเสริมทัพพร้อม F-16 แต่ติดปัญหาการผลิตบางส่วน

นอกจากการสั่งซื้อ F-16V แล้ว ไต้หวันยังเจอปัญหาการส่งมอบตอร์ปิโด MK-48 จำนวน 24 ลูก และตอร์ปิโดจำลอง 4 ลูก ซึ่งมีมูลค่า 178.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,780 ล้านบาท ที่เดิมคาดว่าจะได้รับภายในปี 2026 นั้นถูกเลื่อนออกไปเป็นระหว่างปี 2026 - 2028 

ความล่าช้ายังเกิดขึ้นกับการจัดซื้อระเบิดร่อนนำวิถีร่วมแบบ AGM-154C JSOW (Joint Standoff Weapon) ของเรย์ธีออน (Raytheon) มีมูลค่า 4,417 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 143,000 ล้านบาท ก็ติดปัญหาในสายอุปทาน (Supply chain) จนเลื่อนการส่งไปเป็นปี 2027-2028 จากเดิมมีกำหนดส่งมอบภายในสิ้นปี 2026 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ระบบจรวดนำวิถีความแม่นยำสูง HIMARS (High Mobility Artillery Rocket Systems) ซึ่งผลิตโดย Lockheed Martin กลับส่งมอบได้เร็วกว่ากำหนด โดย HIMARS ที่เหลืออีก 18 ชุด จากทั้งหมด 29 ชุด จากเดิมที่คาดว่าจะส่งมอบได้ในปี 2027 นั้นจะมาถึงไต้หวันในไตรมาสที่ 4 ของปี 2026 นี้