รีเซต

'บิ๊กโจ๊ก' ช่วย 60 คนไทย ถูกแก๊งคอลจีน บังคับทำงานบ่อนเขมร โดนขัง-อดข้าว

'บิ๊กโจ๊ก' ช่วย 60 คนไทย ถูกแก๊งคอลจีน บังคับทำงานบ่อนเขมร โดนขัง-อดข้าว
ข่าวสด
15 พฤศจิกายน 2564 ( 15:28 )
134
'บิ๊กโจ๊ก' ช่วย 60 คนไทย ถูกแก๊งคอลจีน บังคับทำงานบ่อนเขมร โดนขัง-อดข้าว

'บิ๊กโจ๊ก' ช่วย 60 คนไทย ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน บังคับทำงานในบ่อนเขมร ทั้งให้ส่ง SMS ลวง ทำเว็บพนันผิดกฎหมาย ใครขัดขืนโดนขัง-อดข้าว ขู่เอาไปขายต่อ

 

กรณีปรากฏข่าวทางสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อโทรทัศน์ต่างๆ ว่ามีคนไทยถูกหลอกลวงและบังคับให้ทำงานผิดกฎหมายในประเทศกัมพูชา และร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยราชการไทย ให้ช่วยเหลือเดินทางกลับประเทศไทย ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ตามที่ทราบแล้วนั้น

 

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือเหยื่อคนไทยเป็นการเร่งด่วน พร้อมทั้งขยายผลเครือข่ายผู้กระทำผิดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการกระทำในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายการค้ามนุษย์ กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปในสังคม

 

 

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.64 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รองผู้อำนวยการ ศพดส.ตร. ประสานงานกับสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และผู้ช่วยทูตตำรวจไทย ประจำประเทศกัมพูชา จนกระทั่งสามารถช่วยเหลือคนไทย ซึ่งถูกหลอกลวงกลับมาได้อย่างปลอดภัย จำนวน 60 คน

 

 

หลังจากได้รับสั่งการจาก ผบ.ตร. ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ประสานงานไปยังสถานทูตไทย ประจำประเทศกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือคนไทยกลุ่มนี้เป็นการด่วน

 

โดยที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมคณะบินด่วน เดินทางมาที่สะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา เพื่อรับตัวคนไทยจำนวน 60 คน แยกเป็นชาย 37 คน หญิง 23 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ ตร.ฝ่ายกัมพูชาช่วยออกมาจากบ่อนออนไลน์ในกรุงพนมเปญและปอยเปต

 

โดยมี พล.ต.เอก ซอม วัฒนะวีระ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กัมพูชา พร้อมคณะนำตัวคนไทยทั้ง 60 คน มาส่งให้ตรงบริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทยกัมพูชา หลังจากคนไทยทั้งหมดเข้ามาฝั่งประเทศไทยและทุกคนจะต้องถูกตรวจสอบเอกสารการเดินทาง และถูกดำเนินคดีเดินทางเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย จากนั้นก็จะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าขบวนการดังกล่าวมีคนจีนเป็นหัวหน้า เคลื่อนไหวอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยพฤติการณ์จะลงโฆษณารับสมัครงานบนสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ หลอกลวงว่ามีงานในประเทศกัมพูชา จ่ายค่าตอบแทนในอัตราที่สูง เดือนละ 20,000-30,000 บาท หลังจากมีผู้หลงเชื่อมาสมัคร ก็ว่าจ้างขบวนการนำพาคนเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมาย ทางช่องทางธรรมชาติ

โดยกลุ่มผู้เสียหายให้การว่า พวกตนต้องเดินเท้าผ่านป่าตามแนวตะเข็บชายแดน ข้ามไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นจะมีรถมารับไปกักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ต่อมาส่งตัวต่อให้กับนายทุนชาวจีน บังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์, แก๊ง SMS หลอกลวง, เว็บไซต์รับพนันผิดกฎหมาย

ซึ่งผู้ที่ถูกหลอกไป หลังจากทราบว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกัน ทั้งในส่วนลักษณะงาน สวัสดิการและค่าตอบแทน จึงแจ้งกับนายจ้างขอเดินทางกลับ แต่ถูกนายจ้างปฏิเสธ มีการเรียกร้องเอาทรัพย์สิน กักขัง ให้อดอาหาร และขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย เอาไปขายต่อให้นายจ้างเจ้าอื่น พวกตนจึงขอความช่วยเหลือจากทางการไทย จนกระทั่งได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย

ในเบื้องต้นหลังจากที่คนไทยกลุ่มนี้กลับเข้ามาแล้ว จะต้องเข้ากักตัวตามของมาตรการสาธารณสุข หลังจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะสอบปากคำผู้เสียหายทุกรายอย่างละเอียด เพื่อขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ทั้งในส่วนของผู้ชักชวน นายหน้า ผู้นำพา พร้อมทั้งประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อดำเนินคดีกับนายจ้างชาวจีนต่อไปในการนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือสื่อมวลชนประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนได้ทราบถึงภัยด้วย

ภาพบางส่วนจาก มติชนออนไลน์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง