เมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนที่ devildish เตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย เคยสับสนว่าเราจะเรียนอะไรดี เชื่อได้เลยว่า มีน้องๆหลายคนที่ยังสับสนกันอยู่ วันนี้ devildish จะมารีวิวการเรียนวิศวะในรั้วมจพ.ทั้งสี่ปี จะเป็นยังไงไปดูกันเลยปี 1 รับน้องสนุก กิจกรรมสุดขั้วปีนี้เป็นปีแห่งการเป็นเฟรชชี่ มีกิจกรรมต่างๆให้เด็กปีหนึ่งได้ทำหลายอย่าง เช่น รับน้อง ตามหาพี่รหัส คัดหลีด เข้าชมรมที่เราชอบ ซ้อมเพลงของมหาลัย และได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ทั้งในคณะและต่างคณะ ส่วนวิชาเรียนจะเป็นวิชาพื้นฐานและวิชาช่วย วิชาพื้นฐานเช่น แคล 1 ฟิสิกส์ 1 ดรออิ้งพื้นฐาน เคมีพื้นฐาน ภาษาอังกฤษพื้นฐาน สถิติสำหรับวิศวกร และวิชาช่วยเช่น แบตมินตัน ปิงปอง ธุรกิจกับชีวิตประจำวัน นันทนาการเพื่อชีวิต ซึ่งบอกเลยว่า ปีแรกนี้เป็นอะไรที่สนุกมาก และที่นี่พอจบเทอมสองของปี 1 แล้วจะมีการให้นักศึกษาฝึกสกิลงานช่างเป็นเวลา 2 เดือน บอกได้เลยว่าสนุกนะ ได้ทำซีแคลมป์จากก้อนเหล็กด้วยเรียกได้ว่าถ้าใครจบวิศวะจากมจพ.จะต้องมีซีแคลมป์เป็นของตัวเอง 1 อันนะคะซีแคลมป์ในตำนาน ที่ทำจากก้อนเหล็กสี่เหลี่ยมผืนผ้าจ้า กว่าจะได้มาครอบครองก็เหนื่อยสุดๆ เสียเหงื่อไปเยอะมากบอกเลย ปี 2 ช่วงเวลาแห่งกิจกรรมในฐานะพี่รหัสปีสองนี้ยังเรียนไม่ยากมากแต่ก็มีบางตัวที่เป็นวิชาพื้นฐานของภาค กิจกรรมน้อยลงแต่ยังมีอยู่ ปีนี้เป็นปีที่ต้องเตรียมงานรับน้อง เลี้ยงข้าวและขนมน้องรหัส และขนหนังสือเรียนที่พี่รหัสของเราให้ไว้เมื่อปีที่แล้วมาให้น้องรหัสต่อในปีนี้ เป็นปีแห่งสายสัมพันธ์และอบอุ่นจริงๆค่ะ ปีสองนี้ก็เรียบง่ายค่ะ ไม่เยอะมาก ถือเป็นปีชิลๆ ปี 3 วิชาเรียนจัดหนัก ต้อนรับที่ฝึกงานปีนี้เป็นปีที่วิชาเรียนที่เป็นวิชาภาคมาเต็มๆ เช่น การวิเคราะห์ลักษณะสมบัติของวัสดุ วิศวกรรมการหล่อโลหะ การอบชุบความร้อนโลหะ โลหวิทยาการเชื่อม ปรากฏการณ์การถ่ายเทในกรรมวิธีทางวัสดุ (ลืมบอกว่าผู้เขียนเรียนภาควิชาวิศวกรรมวัสดุนะ) เป็นต้น และต้องหาที่ฝึกงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับการฝึกงานในช่วงปิดเทอมของปี 3 เทอม 2 ค่ะ ซึ่งโรงงานที่ผู้เขียนไปฝึกเป็นโรงงานเกี่ยวกับการอบชุบความร้อนโลหะ ซึ่งได้ใช้ที่เรียนมาแบบจริงจังมาก ตอนฝึกงานทั้งเหนื่อยและสนุกและได้ใช้สิ่งที่เรียนมา ตอนนั้นทำให้รู้เลยว่าวันที่เรียนจบมหาลัยนั่นคือวันแห่งการเริ่มต้นของชีวิต ปี 4 โปรเจคจัดหนักแบบจุกๆและการก้าวสู่โลกของคนวัยทำงานปีนี้ค่อนข้างหนักตรงโปรเจค แต่วิชาเรียนก็ไม่ยากและเหลือไม่เยอะแล้ว ทำให้เวลาทั้งหมดถูกแบ่งไปให้โปรเจคจบมากกว่า 70% การทำโปรเจคจบจะเริ่มตั้งแต่ การหาอาจารย์ที่ปรึกษาและหัวข้อโปรเจคจบที่เราอยากทำ ต่อมาก็เริ่มลงมือทำโดยจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ ช่วงที่ทำการค้นหาข้อมูลและจัดทำวิทยานิพนธ์ครึ่งแรก คือ บทนำ เอกสารที่เกี่ยวข้อง(บทนี้ต้องไปหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาศึกษาและวิชาภาค สมการ และองค์ความรู้ทั้งหมดที่ต้องใช้และเกี่ยวข้องกับโปรเจคที่ทำ ซึ่งโดนแก้หลายรอบมาก ฮ่าๆๆ) และ อุปกรณ์-วัสดุและวิธีการทดลอง ซึ่งบทนี้จะมีการเริ่มทำงานบางส่วนแล้ว เช่น วางแผนงาน คำนวณ หรือเริ่มสร้างหากทำโปรเจคเกี่ยวกับงานสร้าง พอมาถึงช่วงที่สองก็จะทำบทที่เป็นครึ่งหลังของวิทยานิพนธ์ คือ ส่วนผลการทดลอง และสรุป-วิเคราะห์ผลการทดลอง ซึ่งตอนนี้ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้องมาอ้างอิงกับสิ่งที่เราทดลอง และสุดท้ายก็จัดทำเล่มโปรเจคจบ จ้า เป็นไงบ้างค่ะ น่าเรียนมั้ย จริงๆชีวิตในมหาลัยมีรายละเอียดมากกว่าที่ผู้เขียนเล่าไว้อีกนะ ซึ่งคนเราต่างคนก็ต่างแนวทางกันไป อย่างผู้เขียนเป็นสายกิจกรรม ชอบเล่นหมากรุก ชอบสังสรรค์ ก็มีรายละเอียดลงไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนมีคล้ายๆกันคือ การก้าวเข้ามาในมหาลัยเพื่อรับความรู้จากอาจารย์ที่สอนเรา ให้คิดเป็น ทำเป็น และจบออกไปเป็นบุคคลที่สามารถพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติได้ และที่สำคัญคือ ต้องเป็นคนดีนะทุกคน สำหรับวันนี้ต้องขอลาไปก่อนเจอกันใหม่คอนเทนท์หน้านะคะ บายค่า