https://unsplash.com/photos/zt8PJ6LT9Uw เรียกว่าช่วงนี้อีกปัญหาที่ตามมาติด ๆ ต่อจากโควิดก็เห็นจะเป็นปัญหาในเรื่องของสุขภาพทางด้านจิตใจกันนี้แหละค่ะ เมื่อทุกคนจำเป็นที่จะต้องกักตัวอยู่เพียงแต่ในบ้าน แถมร้านค้าหลาย ๆ ร้านต่างก็ต้องปิด และหยุดพักกิจการชั่วคราวในช่วงนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิดจากกลุ่มคนหมู่มาก นั้นจึงส่งผลให้เราจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือกับมาตรการการควบคุมของรัฐด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งผลกระทบทางด้านสุขภาพจิตใจอาจจะกำลังเป็นภัยเงียบที่กำลังคืบคลานเข้ามาในช่วงนี้นั้นเองค่ะ แหล่งที่มา เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนภัยร้ายจ้องมองอยู่ทุกวัน เริ่มที่ช่วงเวลาของวันแรก ๆ สำหรับการกักตัว และการทำงานที่บ้าน ทุกอย่างยังคงปกติสุข แถมยังรู้สึกแฮปปี้กับการที่ได้อยู่แต่ในบ้านมากกว่าการออกไปเจอกับรถติด หรือการเดินทางในที่ที่แออัดอีกด้วย เรียกว่าช่วงเวลานี้คือตอบโจทย์การพักผ่อนไปด้วย ทำงานไปด้วยของเราได้เป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ วันไหนที่ต้องการร้านคาเฟ่ ก็ขอได้แค่ออกไปซื้อกาแฟ และยืนรอคิวอยู่ในร้านสักพัก เพียงเท่านั้นก็สร้างความสุขให้เราได้แล้ว แหล่งที่มา จนเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เข้าสู่อาทิตย์ที่สาม ทุกอย่างที่เคยรู้สึกดี เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เรารู้สึกแฮปปี้กับการอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม กลายเป็นว่าเรารู้สึกเบื่อ และเซ็ง ที่ต้องตื่นขึ้นมาทำแต่อะไรซ้ำ ๆ ในห้องเดิม ๆ เหมือนทุกวันมัน นั้นจึงส่งผลให้เราไร้การตั้งเป้าหมายในแต่ละวันไป ใช้ชีวิตราวกับว่ารอให้มันถึงเวลานอน และตื่นขึ้นมาใหม่ และทำอะไรเดิม ๆ อีกครั้ง บอกเลยว่าช่วงเวลานี้มันทำให้เราโหยหาการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เราจึงตัดสินใจออกไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อถือเป็นการเดินเล่นผ่อนคลายไปในตัว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันได้สร้างความประหลาดใจให้ตัวเราเองพอสมควร แหล่งที่มา กลายเป็นว่าการออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมของเราทำให้เรารู้สึกวิตกกังวล กับการที่จะต้องมาใช้ชีวิตในสถานที่ที่มีคนเยอะ และระแวงเวลาที่มีคนเดินผ่านในระยะใกล้ ๆ ตัวเราเอง ซึ่งแน่นอนว่าช่วงแรก ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราออกจากบ้าน เราก็คิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความไม่ประมาทของเราเองในการดูแลตัวเองเพียงเท่านั้น แต่มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ที่แม้กะทั่งการไปร้านคาเฟ่ที่เราชื่นชอบ เรายังไม่กล้าที่จะผลัก หรือดันประตูหน้าร้าน เพียงเพราะกังวลถึงเชื้อโรคต่าง ๆ ที่อาจจะติดอยู่ จนพักหลัง ๆ มานี้เราแทบจะไม่อยากเดินออกจากห้อง ไม่อยากเข้าสังคม และเกิดความระแวงกับบุคคลรอบข้างมากขึ้นไปทุกที จนเราตัดสินใจปรึกษาเพื่อน เพื่อยืนยันว่าตัวเองผิดปกติไปจากคนอื่น ๆ หรือไม่? จนได้รับคำแนะนำที่คิดว่ามันจะสามารถช่วยเหลือเราได้นั้นคือ การปรึกษากับคุณหมอโดยตรง แหล่งที่มา 1323 คือหมายเลขของกรมสุขภาพจิต ซึ่งเป็นหมายเลขที่เราได้ค้นหาจาก Google สำหรับการตัดสินใจในการปรึกษาคุณหมอทางด้านนี้โดยตรง บอกเลยว่าเป็นอาทิตย์ค่ะ สำหรับการพิจารณาภายในจิตใจของเราที่ยังคงกังวล และตีกันอยู่ บ้างก็กลัวว่าจะถูกมองเป็นคนบ้า ที่ต้องคุยกับหมอสุขภาพจิต แต่ความกลัวก็ได้ถูกตัดออกไปด้วยอาการเดิม ๆ ที่เราเป็นหลังจากที่เราออกไปด้านนอกมา เมื่อเรากลับเข้ามาถึงห้องเราใช้อารมณ์กลัวในช่วงนั้นโทรหาคุณหมอทันทีเลยค่ะ เรียกว่าอารมณ์ชั่ววูบเลยก็ว่าได้ และหลังจากวางสายไปแล้ว เรายังมานั้งตกใจกับตัวเองอยู่เลยว่า นี้เราคุยกับคุณหมอไปแล้วหรอ? แต่ก็ต้องยอมรับนะคะ ว่าหลังจากเวลานั้นความกลัวของเราได้รับการเยียวยาจากการคุยกับคุณหมอที่เป็นเหมือนการคุยกับเพื่อนคนหนึ่งเลยจริง ๆ มันไม่ใช่การคุยเหมือนเราเป็นคนไข้แต่อย่างใด คุณหมอรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรา และยังบอกอีกว่าไม่ใช่เราคนเดียวที่กำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้ เราไม่ใช่คนแปลก หรือประหลาดในสังคม เพียงเพราะเราแค่มีอาการเหล่านี้ มันมีพลังงานบางอย่างที่ช่วยดึงเราขึ้นมาจากหลุมดำได้ดีเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่กำลังมีอาการคล้าย หรือเหมือนกับที่เราเป็น และกำลังกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราแนะนำให้ลองคุยกับคุณหมอดูนะคะ เพราะมันสามารสร้างพลังงานบวกในชีวิตได้จริง ๆ แถมไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย สามารถโทรมาได้ที่เบอร์ 1323 เลยค่ะ จงระวังภัยเงียบเหล่านี้ที่จะอาจจะเป็นเอฟเฟคจากการใช้ชีวิตในช่วงโควิดกันด้วยนะคะ