พายุลูกเห็บถล่มเลบานอนครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์

วันนี้ (6 ธ.ค.63) กรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน และเขตปริมณฑล เผชิญกับสิ่งที่นักอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เป็นพายุลูกเห็บครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากพายุลูกเห็บ ปกคลุมกรุงเบรุตจนขาวโพลนเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งพายุลูกเห็บถล่มกรุงเบรุตอย่างรุนแรงครั้งที่แล้ว เกิดขึ้นเมื่อปี 2511   

นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใหญ่ และส่งผลกระทบต่อการจราจรบนทางหลวงสายหลักแถบชายฝั่ง นักพยากรณ์อากาศของเลบานอน ระบุว่า ปรากฏการณ์พายุลูกเห็บถล่มเลบานอน เพราะเมฆซูเปอร์เซลล์มีความรุนแรง ก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง และพายุลูกเห็บที่ทรงพลัง

ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า เมฆซูเปอร์เซลล์ ส่งผลกระทบบริเวณชายฝั่งของกรุงเบรุตและปริมณฑล  นอกจากทำให้เกิดพายุลูกเห็บแล้ว ยังทำให้มีฝนตกหนัก วัดปริมาณได้ 50 มิลลิเมตร ในเวลา 25 นาที ไม่เพียงแค่นั้น ซูเปอร์เซลล์ ยังทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็วมาก จาก 21 องศาเซลเซียส หล่นมาอยู่ที่ 13.5 องศาเซลเซียส ภายในเวลา 2 นาทีเท่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวต่อไปว่า เมฆซูเปอร์เซลล์ก่อตัวขึ้น เพราะสภาพแวดล้อมในชั้นบรรยากาศเป็นใจ  และไม่จำกัดความผันแปรของอุณหภูมิระหว่างอุณหภูมิพื้นผิวทะเลกับอุณหภูมิด้านบนของชั้นบรรยากาศ

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ระเบิดที่ท่าเรือกรุงเบรุตเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม มีฝนและหิมะตกลงมาอย่างหนักในเมืองหลวงเลบานอน