AI จีนเติบโตสุด ? ยื่นขอสิทธิบัตรแล้วเกือบ 40,000 รายการ

รายงานใหม่จากองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization : WIPO) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Generativ AI) ของประเทศจีนมีการเติบโตมากที่สุดในโลก โดยมีการยื่นขอสิทธิบัตรระหว่างปี 2014 - 2023 ทั้งสิ้น 38,210 รายการ ซึ่งตัวเลขนี้มากกว่าอีกหนึ่งประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ ประมาณ 6 เท่า ซึ่งมีการยื่นขอสิทธิบัตร 6,276 รายการ ตามมาด้วยเกาหลีใต้ 4,155 รายการ ญี่ปุ่น 3,409 รายการ และอินเดีย 1,350 รายการ

นอกจากนี้ 4 บริษัทแรกที่มีการยื่นขอสิทธิบัตร AI มากที่สุดในโลก เป็นบริษัทจีน ได้แก่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง เทนเซ็นต์ โฮลดิ้ง (Tencent Holdings) มีสิ่งประดิษฐ์ 2,074 รายการ ตามมาด้วยกลุ่มบริษัททางการเงินอย่างผิงอัน อินชัวแรนซ์ (Ping An Insurance) จำนวน 1,564 รายการ บริษัทเสิรซเอนจิ้นไปตู้ (Baidu) จำนวน 1,234 รายการ และองค์กรวิจัยวิทยาศาสตร์ของจีนจำนวน 607 รายการ ส่วนบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐฯ อย่าง IBM เป็นเพียงบริษัทเดียวใน Top 5 ที่ไม่ใช่บริษัทจีน มีการยื่นขอสิทธิบัตร 601 รายการ

การเติบโตนี้ของจีน ตอกย้ำการมุ่งเน้นเชิงกลยุทธ์ของจีนในด้าน AI ซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ 

ทั้งนี้อุตสาหกรรม AI ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา WIPO เผยว่ามีการยื่นขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับ Gen AI มากกว่า 50,000 รายการทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ และยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 4 หรือประมาณ 12,500 รายการถูกยื่นขอจดสิทธิบัตรในปี 2023 เพียงปีเดียว

รายงานกล่าวว่า “Gen AI เป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยที่จะส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่หลากหลายและขยายขอบเขตไปไกลกว่าการสร้างข้อความธรรมดา ๆ”

นอกจากนี้ รายงานยังได้มีการกล่าวถึงการประยุต์ใช้ AI ด้วย โดยมีสิทธิบัตรการใช้ในรูปแบบภาพและวิดีโอจำนวน 17,996 รายการ ส่วนการใช้งานแบบข้อความมีจำนวน 13,494 รายการ ส่วนที่เกี่ยวกับเสียงและดนตรีมี 13,480 รายการ

สิทธิบัตร GenAI สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับโมเลกุล ยีน และโปรตีนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ตั้งแต่ปี 2014 มีการยื่นขอสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ 1,494 รายการ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 78 ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ปัจจุบันแชตบอตอย่างแชทจีพีที (ChatGPT) ก็กำลังพัฒนาการใช้งานเพื่อตอบสนองการให้บริการลูกค้าอยู่อย่างต่อเนื่อง และในอนาคตก็มีความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ในขณะเดียวกันในด้านการนำไปใช้เกี่ยวกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนายา ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ การขนส่ง และการรักษาความปลอดภัย Gen AI ก็มีความเป็นไปได้ที่จะก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมาก

ดาเรน ถัง (Daren Tang) ผู้อำนวยการ WIPO กล่าวว่า “Gen AI จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมของเทคโนโลยี โดยมีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานและการใช้ชีวิตของพวกเรา”

ข้อมูลจากสถิติ จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จีนเป็นผู้นำด้านสิทธิบัตร Gen AI แต่แน่นอนว่าทั่วโลกก็กำลังพัฒนาและกำลังแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้กันอยู่ ซึ่งโดยรวมแล้วก็จะเป็นการช่วยกันผลักดันให้เทคโนโลยีของโลกเติบโตมากขึ้น 

ที่มาข้อมูล InterestingEngineering, WIPO

ที่มารูปภาพ Reuters