รีเซต

ผลชันสูตรเด็ก 6 ขวบออกแล้ว พบกะโหลกศีรษะร้าว หลังชาวบ้านแฉ ผู้ปกครองบังคับนอนในรถนานเป็นปี

ผลชันสูตรเด็ก 6 ขวบออกแล้ว พบกะโหลกศีรษะร้าว หลังชาวบ้านแฉ ผู้ปกครองบังคับนอนในรถนานเป็นปี
มติชน
3 มกราคม 2565 ( 14:04 )
113

ผลชันสูตรเด็ก 6 ขวบออกแล้ว เหตุเสียชีวิตปริศนาในรถ พบรอยฟกช้ำ กะโหลกศีรษะร้าว หลังเพื่อนบ้านแฉผู้ปกครองบังคับนอนในรถนานเป็นปี หวั่นเอี่ยวไสยศาสตร์

 

จากกรณีที่วานนี้ (2 มกราคม) พ.ต.อ.สมชาย อยู่สวัสดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด พร้อมด้วย ร.ต.ท.วัชรินทร์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.แหลมงอบ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พยผู้เสียชีวิตในรถยนต์ ภายในหมู่บ้านแหลมทองหลาง อ.แหลมงอบ จ.ตราด หลังได้รับแจ้งจากนายวิศรุต มาลารัตน์ ผู้ใหญ่บ้านแหลมทองหลาง

 

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค ทะเบียน กต 2748 นครปฐม ของนายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี จอดอยู่ริมถนน ผู้เสียชีวิตคือ ด.ช.สายฟ้า ถนอมวงษ์ อายุ 6 ปี ถูกนำออกไปไว้ที่บ้านแล้ว

 

และเมื่อ ร.ต.ท.วัชรินทร์ แก้วเสน่ห์ใน ร้อยเวร สภ.แหลมงอบ เข้าไปสอบปากคำนายปัญญา ชัยเชียงเอม พ่อเลี้ยง และ น.ส.นรินทร์รัตน์ ถนอมวงษ์ แม่ของ ด.ช.สายฟ้า ทว่าผู้เป็นแม่ไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ อ้างว่า จะขออยู่กับลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และถูกชาวบ้านใส่ร้าย

ระหว่างนั้น พ.ต.อ.สมชายได้สอบปากคำเบื้องต้นกับญาติของเด็กชายถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่กลับบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ทำให้ชาวบ้านที่ได้ยินต่างไม่พอใจและบอกว่าไม่เกี่ยวกับไสยศาสตร์ ก่อนที่ญาติจะไม่พอใจเช่นกัน จึงต่อว่ากลับไป หวิดบานปลาย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องห้ามไว้

 

จากนั้น พ.ต.อ.สมชายได้อธิบายถึงกระบวนการการสอบสวนคดี เนื่องจากสาเหตุการตายผิดธรรมชาติ มีเลือดออกจากจมูก ตอนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องหาพยานหลักฐานทั้งหมดในเรื่องนี้ และมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

เมื่ออธิบายขั้นตอนการทำงานของตำรวจแล้ว พ.ต.อ.สมชาย พร้อมกับร้อยเวรเดินเข้าไปพบ น.ส.นรินทร์รัตน์เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นถึงสาเหตุการเสียชีวิต แต่ น.ส.นรินทร์รัตน์ยังไม่ให้ความร่วมมือ บอกว่าอยากให้ทุกอย่างจบ แต่ พ.ต.อ.สมชายตอบกลับไปว่าคดีนี้ยังไม่จบ ต้องส่งศพไปพิสูจน์ถึงสาเหตุการเสียชีวิต เพราะการเสียชีวิตเป็นที่น่าสงสัย แต่การพิสูจน์ศพจะไม่ละเมิดกฎของศาสนาอิสลาม

 

ด้านนายปัญญาให้การกับตำรวจเบื้องต้นว่า ตนเองเป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ช.สายฟ้า ซึ่ง ด.ช.สายฟ้าได้กลับมาอยู่กับแม่ที่บ้านหลังนี้เมื่อ 2 ปี ก่อน และเมื่อมาอยู่อาศัยได้ไม่นาน ด.ช.สายฟ้าบ่นว่าปวดหลังปวดตัว นอนที่บ้านไม่ได้ ทำให้ตนต้องย้าย ด.ช.สายฟ้าไปนอนในรถเกือบทุกคืน โดยตนเองไปนอนด้วย ต่อสายไฟใช้พัดลมเป่าให้ด้วย ซึ่งเป็นแบบนี้เกือบทุกวัน

 

นายปัญญากล่าวอีกว่า และเมื่อวานนี้ ช่วงเวลา 21.00 น. กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ด.ช.สายฟ้าบอกว่าง่วงนอนจะเข้าไปนอนในรถ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร และตอนเที่ยงคืน ด.ช.สายฟ้าบอกว่าอยากกินปู จึงออกไปตักปูให้ ก่อนที่กลับเข้าบ้านมาตอนเช้าวันนี้จึงเข้าไปดู ด.ช.สายฟ้าในรถพบว่าเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงอุ้ม ด.ช.สายฟ้า มาไว้ในบ้าน

 

นายปัญญากล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ด.ช.สายฟ้าแต่อย่างใด แต่กลับถูกชายบ้านใส่ร้ายกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย ทำไมตอนเด็กยังมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ถามเด็กว่าทำร้ายหรือหรือไม่ แต่ได้พูดคุยกับ ด.ช.สายฟ้า เรื่องการทำโทษด้วยการตี แต่การตีทุกครั้งก็มีเหตุผล และตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาก็ตี ด.ช.สายฟ้าแค่ 2 ครั้งเท่านั้น พร้อมสอนให้เข้มแข็ง ไม่ให้ถูกใครรังแก ส่วนการนอนหลับ ด.ช.สายฟ้าชอบนอนละเมอ เมื่อละเมอก็ชอบกระโดดอยู่บ่อยครั้ง

 

ด้าน น.ส.หรินทร์ นาคชูวงษ์ ชาวบ้านในหมู่บ้านแหลมทองหลาง กล่าวว่า ด.ช.สายฟ้ามาอยู่กับพ่อเลี้ยงและแม่มาหลายปีแล้ว ช่วงแรกๆ ร่างกายไม่มีปัญหาอะไร นอนอยู่ในบ้านตามปกติ แต่เมื่อเวลาผ่านไป น้องเริ่มมานอนในรถ โดยอ้างว่าน้องนอนบนบ้านไม่ได้ เพราะปากเบี้ยว และน้องก็นอนในรถแบบนี้เป็นปีๆ และบังคับให้น้องนอนในรถทุกคืน ห้ามออกจากรถหลัง 9 โมง เพราะเชื่อในไสยศาสตร์ตามความเชื่อของแม่น้อง และน้องเริ่มขาเป๋ แขนเบี้ยว หัวบูด หน้าจะเขียว และมีแผลตลอด ไม่รู้ว่าน้องถูกตี หรือถูกทำร้ายหรือไม่

 

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือจังหวัดตราด นำศพไปยังโรงพยาบาลแหลมงอบ เพื่อชันสูตรศพหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

 

ล่าสุดเช้าวันนี้ (3 มกราคม) ผลการชันสูตรศพเบื้องต้นจากโรงพยาบาลตราดพบว่า ตามร่างกาย ด.ช.สายฟ้ามีรอยฟกช้ำ กะโหลกศีรษะร้าว แขนและขาหัก ส่วนอวัยวะภายในอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

ความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สมชายเปิดเผยว่า ยังไม่ได้ตั้งข้อหากับพ่อเลี้ยง หรือแม่ของเด็ก ซึ่งจะต้องรอผลอย่างละเอียดอย่างเป็นทางการ และยังคงต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แน่นที่สุด เนื่องจากพ่อเลี้ยงและแม่เด็กยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูก แต่ได้จับกุมตัวนายปัญญา ชัยเชียงเอม พ่อเลี้ยง ในข้อหายาเสพติด แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

 

จากนั้นเวลา 09.00 น. นายกฤษฎา ชัยเชียงเอม อายุ 29 ปี น้องชายของนายปัญญา เดินทางไปเยี่ยมพร้อมนำอาหารไปให้พี่ชายที่ สภ.แหลมงอบ และมีการพูดคุยกับพี่ชายประมาณ 5-10 นาที

 

หลังจากนั้นนายกฤษฎาเปิดเผยว่า เชื่อในความบริสุทธิ์ของพี่ชายว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง และพี่ชายก็ยืนยันกับตนเองว่าไม่ได้ทำร้ายลูกเลี้ยง ซึ่งพี่ชายเองก็มีลูกสาววัย 3-4 ขวบเช่นกัน และไม่เคยเห็นพี่ชายตีลูกสาวและลูกเลี้ยง ยังตกใจและทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พี่ชายทำใจแล้วว่าจะต้องติดคุก

เวลา 10.00 น. กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตราดเดินทางมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ เป็นการเก็บหลักฐานที่มีความละเอียดเพิ่มมากขึ้น โดยตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เช่น ทิศทางของพระอาทิตย์ที่ส่องเข้าหารถ แหล่งกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้พัดลมเป่าเข้าหาตัวเด็กที่นอนอยู่เบาะหลัง อุณหภูมิในรถในช่วงก่อนและหลังเปิดพัดลมมีความแตกต่างกันหรือไม่ และเก็บร่องรอยลายนิ้วมือ รวมถึงหลักฐานชิ้นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อรวบรวมหลักฐานทั้งหมดทั้งของวันนี้และเมื่อวานนี้ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อให้เป็นข้อมูลทางคดีต่อไป

 

ด้านนายมานัส วรรณิกาพท โต๊ะอิหม่าม มัสยิดนูรุ้ลมูบีน (แหลมทองหลาง) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในทางศาสนาอิสลามแล้วไม่มีความเชื่อด้านไสยศาสตร์ เพราะเป็นเรื่องบาปของศาสนาอิสลาม แต่จะมีพิธีกรรมที่คล้ายกับศาสนาพุทธ คือการสวดบทสวด แล้วเป่าไล่ผี หรืออาการปวด แต่ศาสนาอิลสามจะเป็นการอ่านบทอัลกุรอานแล้วเป่าแก้ปวดเมื่อยและไล่ผีเช่นกัน แต่ไปทำของใส่ไม่ได้ นั่นคือบาป แต่ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 13.00 น.วันนี้ พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตราด จะเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามคดีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ และเป็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง