รีเซต

พัทลุง ทำพิธีเก็บเกี่ยวใบกัญชาส่วนประกอบยารักษาโรคหนึ่งเดียวภาคใต้

พัทลุง ทำพิธีเก็บเกี่ยวใบกัญชาส่วนประกอบยารักษาโรคหนึ่งเดียวภาคใต้
มติชน
27 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:48 )
185
พัทลุง ทำพิธีเก็บเกี่ยวใบกัญชาส่วนประกอบยารักษาโรคหนึ่งเดียวภาคใต้

วันที่ 27 กุมภาพันธ์   ที่แปลงสาธิตปลูกกัญชา บริเวณโรงพยาบาลส่งเสริมคุณภาพชุมชนตำบลบ้านนาปะขอ ตำบลนาปะขอ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง นางนาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมกับ นายกู้เกียรติ วงค์กระพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ร่วมในกิจกรรมเก็บเกี่ยวใบกัญชา หนึ่งเดียวในภาคใต้ เพื่อนำใบกัญชา และส่วนประกอบ ไปสกัดเป็นยาสมุนไพรรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคอื่น ๆ ซึ่งเป็นแห่งแรกในภาคใต้

 

 

นายกู้เกียรติ วงค์กระพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าจากการที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายให้โรงพยาบาลจัดให้มีบริการกัญชาทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย ซึ่งจังหวัดพัทลุงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำกัญชามาใช้ในการรักษา โรคมะเร็ง และโรคอื่นที่ ๆ จึงได้มอบหมายให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาปะขอ ร่วมกับ อบต.นาปะขอ และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเกษตรผสมผสานบ้านนาปะขอ ปลูกกัญชา วัตถุประสงค์ เพื่อนำผลผลิตกัญชา ไปเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตตำรับยาแผนไทย ที่มีกัญชาปรุงผสม ได้แก่ ตำรับยาน้ำมันสนั่นไตรภพที่ปลอดภัย และนำผลผลิตกัญชา ส่งเป็นวัตถุดิบให้กองพัฒนายาแผนไทยและสมุนไพรไทย ผลิตเป็นยาแผนไทย หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับพืชกัญชาของหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานอื่นที่ขอรับการสนับสนุน ตลอดจนเพื่อส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น การนวดการประคบ เป็นต้นของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านนาปะขอ เป็นต้น

 

สำหรับกิจกรรมที่จัดในครั้งนี้ ประกอบด้วยการสาธิต การปรุงอาหารจากกัญชา และชมแปลงสาธิตการปลูกกัญชาเพื่อสุขภาพ ซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในภาคใต้ ทดลองทานอาหารที่ผลิตจากใบกัญชา และน้ำดื่มสมันไพรกัญชา โครงการปลูกกัญชา ที่ อบต.นาปะขอ ใช้เงินของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ประมาณ 1 ล้านบาท ใช้จุดดังกล่าว เป็นพื้นที่นำร่องในการปลูกกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ของ 14 จังหวัดภาคใต้

 

 

ส่วนพันธุ์กัญชาที่นำมาปลูก จะเป็นพันธุ์หางกระจอก โดยดำเนินการปลูก มาตั้งแต่ เดือนพฤษภาคม 2563 ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และจากฐานข้อมูลผู้ป่วยโรคมะเร็ง พื้นที่ ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว พบว่ามีผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูก 21 ราย มะเร็งเต้านม 25 ราย มะเร็งตับ 3 ราย และมะเร็งปอด 6 รายรวม 55 ราย

นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่งในอำเภอบางแก้ว ได้สำรวจผู้ป่วยที่มีอาการเข้าได้กับการใช้กัญชาทางการแพทย์ มีมากถึง 352 ราย ซึ่งคาดว่า จะได้รับการรักษาในเร็ว ๆ นี้

ด้าน นางนาที กล่าวว่า ปัจจุบันสารสกัดจากกัญชาเป็นที่น่าสนใจของประชาชนและในขณะนี้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล คือการทำให้กัญชา-กัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจอีกหนึ่งทางเลือกของประชาชน โดยปลดล็อกในส่วนของราก ใบ ลำต้น เปลือกและเส้นใย ออกจากบัญชียาเสพติดประเภท 5 เพื่อนำมา แปรรูป เสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชน เปิดทางระบบอุตสาหกรรมผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น อาหารเสริม ยา เครื่องสำอาง ส่วนการนำกัญชามาเป็นส่วนประกอบในอาหารนั้น จะต้องมีการกำหนดปริมาณในการใช้ที่ถูกต้องเหมาะสม เหมือนกรณีกำหนดการบริโภคเกลือ น้ำตาล ก็ต้องมีการกำหนดปริมาณการใช้

อย่างไรก็ดี ในเรื่องการอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้บ้านละ 6 ต้น ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งของรัฐบาลในอนาคต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง