เปิดตัว Figure 03 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ปฏิวัติงานบ้านด้วย AI พร้อมเดินหน้าสู่การผลิตเชิงพาณิชย์

วันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัท Figure AI สตาร์ตอัปจากซิลิคอนแวลลีย์ สหรัฐอเมริกา เปิดตัว Figure 03 หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ (Humanoid Robot) รุ่นที่ 3 อย่างเป็นทางการ Figure 03 ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นหุ่นยนต์อเนกประสงค์อย่างแท้จริง ที่สามารถปฏิบัติงานที่เหมือนมนุษย์ และเรียนรู้โดยตรงจากผู้คน โดยมีการออกแบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น เพื่อการใช้งานสำหรับระบบ AI ของ Figure ที่ชื่อว่า Helix สำหรับบ้าน และสำหรับการผลิตในระดับโลก

หุ่นยนต์ Figure 03 ถูกพัฒนาให้เป็นหุ่นยนต์รุ่นแรกของบริษัทที่เน้นสภาพแวดล้อมภายในบ้านเป็นหลัก ตั้งแต่การพับผ้า จัดโต๊ะ ไปจนถึงการดูแลพื้นที่ครัว โดยมีขนาดเท่าคนจริง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร และหนักประมาณ 60 กิโลกรัม

สมองกลอัจฉริยะพลังขับเคลื่อนด้วย Helix AI

กุญแจสำคัญในการขยายขนาดของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ คือ AI Figure 03 จึงถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อเปิดใช้งานการให้เหตุผลที่แท้จริงผ่านระบบ Helix ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์แบบวิทัศน์-ภาษา-การกระทำ (Vision-Language-Action AI) ของ Figure Helix เป็น AI แบบมัลติโมเดลที่รวมการมองเห็น การฟัง การเคลื่อนไหว และการให้เหตุผลเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถรับรู้สิ่งรอบตัวและตัดสินใจได้เอง โดยไม่ต้องถูกโปรแกรมทีละคำสั่ง ตัวอย่างเช่น หากเห็นจานสกปรก หุ่นยนต์สามารถหยิบไปใส่เครื่องล้างจานได้ทันที

หุ่นยนต์ Figure 03 สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่จากการดูวิดีโอของมนุษย์ โดยใช้คลิปเพียง 80 ชั่วโมงในการสอนการพับผ้าได้สำเร็จ ซึ่งแตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปที่อาจต้องใช้ข้อมูลระดับพันชั่วโมง

การรับรู้และความแม่นยำสูง

และเพื่อรองรับการทำงานของ Helix, Figure 03 ได้แนะนำชุดเซนเซอร์และระบบมือที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด

ระบบวิชันซิสเต็ม เป็นระบบวิชันเจเนอเรชันถัดไปที่ออกแบบมาสำหรับการควบคุมการเคลื่อนไหวทางสายตาความถี่สูง โดยมีอัตราเฟรมเรตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า มีความหน่วง (Latency) ลดลงเหลือหนึ่งในสี่ และมีมุมมองกว้างขึ้น 60% ต่อกล้องหนึ่งตัว การปรับปรุงเหล่านี้ช่วยให้ Helix มีกระแสการรับรู้ที่หนาแน่นและเสถียรขึ้น ซึ่งจำเป็นสำหรับการนำทางที่ชาญฉลาดและการจัดการที่แม่นยำในพื้นที่ที่ซับซ้อน เช่น ภายในบ้าน

ระบบมือ โดยมือแต่ละข้างได้ติดตั้งกล้องฝ่ามือแบบฝังที่มีมุมมองกว้างและการรับรู้ความหน่วงต่ำ ซึ่งให้ภาพป้อนกลับระยะใกล้ที่ซ้ำซ้อนระหว่างการจับ กล้องเหล่านี้ช่วยให้ Helix ยังคงรับรู้ทางสายตาได้แม้ในขณะที่กล้องหลักถูกบดบัง เช่น เมื่อเอื้อมเข้าไปในตู้

เซนเซอร์ระบบสัมผัส Figure ได้พัฒนาเซนเซอร์สัมผัสรุ่นแรกของตนเอง โดยเน้นหลักการสามประการ คือ ความทนทานสูงสุด ความน่าเชื่อถือในระยะยาว และการรับรู้ความแม่นยำสูง เซนเซอร์ที่ปลายนิ้วสามารถตรวจจับแรงกดได้น้อยถึงสามกรัม ซึ่งละเอียดอ่อนมากพอที่จะรับรู้ถึงน้ำหนักของคลิปหนีบกระดาษที่วางอยู่บนนิ้ว ความแม่นยำนี้ช่วยให้ Helix สามารถควบคุมวัตถุที่บอบบาง ผิดรูป หรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว

นอกจากนี้ Figure 03 ยังมีความสามารถในการอัปโหลดข้อมูลด้วยความเร็ว 10 Gbps mmWave ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถอัปโหลดข้อมูลขนาดหลายเทราไบต์เพื่อการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

การออกแบบเพื่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตประจำวันในบ้าน

Figure 03 ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับผู้คนในสภาพแวดล้อมประจำวันได้อย่างราบรื่น

ความปลอดภัยทางกายภาพ โดยมีการติดตั้งโฟมความหนาแน่นหลายระดับเพื่อป้องกันจุดหนีบ และหุ้มด้วยวัสดุสิ่งทอที่อ่อนนุ่มแทนชิ้นส่วนโลหะที่ขึ้นรูปแข็ง หุ่นยนต์มีมวลลดลง 9% และมีปริมาตรน้อยลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ Figure 02 ทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ในครัวเรือน

ระบบแบตเตอรี่มีการป้องกันหลายชั้นต่อการใช้งานผิดประเภทหรือการทำงานผิดพลาด รวมถึงการป้องกันในระดับ BMS, เซลล์, อินเตอร์คอนเนค และแพ็ค แบตเตอรี่ได้รับการรับรองมาตรฐาน UN38.3 แล้ว

ความสะดวกในการใช้งาน โดยใช้ส่วนที่เป็นผ้าสามารถถอดออกหรือเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ และสามารถนำไปซักได้ หุ่นยนต์ยังสามารถปรับแต่งชุดได้หลายรูปแบบ รวมถึงเสื้อผ้าที่ทำจากวัสดุที่ทนทานหรือป้องกันการบาด

ระบบเสียงมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์เสียงเพื่อการพูดคุยแบบเรียลไทม์ที่ดีขึ้น โดยลำโพงมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าและทรงพลังเกือบสี่เท่าเมื่อเทียบกับ Figure 02

การชาร์จไร้สาย หุ่นยนต์ Figure 03 รองรับการชาร์จแบบไร้สาย (wireless inductive charging) ด้วยคอยล์ที่ติดตั้งในเท้า ทำให้สามารถเดินไปที่แท่นชาร์จเพื่อชาร์จไฟที่ 2 kW และสามารถด็อกและชาร์จตัวเองได้ตามต้องการตลอดทั้งวันในสภาพแวดล้อมที่บ้าน

การมุ่งสู่การผลิตขนาดใหญ่และตลาดเชิงพาณิชย์

Figure 03 เป็นหุ่นยนต์รุ่นแรกที่ถูกออกแบบมาตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อการผลิตในปริมาณมาก (High-volume manufacturing) โดยอาศัยการริเริ่มหลักสามประการ ได้แก่ การออกแบบและกระบวนการผลิตใหม่ การสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ทั้งหมด และการประดิษฐ์โรงงาน BotQ

การลดต้นทุนการผลิต ทีมวิศวกรรมได้ลดจำนวนชิ้นส่วนและขั้นตอนการประกอบลงอย่างมาก Figure 03 อาศัยกระบวนการขึ้นรูป (tooled processes) เช่น การหล่อขึ้นรูป (die-casting) และการฉีดขึ้นรูป (injection molding) แทนการใช้เครื่องจักร CNC เป็นหลัก ซึ่งแม้จะมีการลงทุนล่วงหน้าสูง แต่ส่งผลให้ต้นทุนการสร้างต่อหน่วยลดลงอย่างมากเมื่อปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น

BotQ คือ โรงงานผลิตเฉพาะของหุ่นยนต์ Figure ที่ออกแบบมาเพื่อขยายขนาดการผลิต สายการผลิตรุ่นแรกของ BotQ จะมีความสามารถในการผลิตหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ได้สูงสุดถึง 12,000 ตัวต่อปี โดยมีเป้าหมายในการผลิตรวม 100,000 ตัวในอีก 4 ปีข้างหน้า

ห่วงโซ่อุปทาน Figure ได้รวมระบบในแนวดิ่งสำหรับโมดูลที่สำคัญหลายอย่าง รวมถึงแอคทูเอเตอร์ แบตเตอรี่ เซนเซอร์ โครงสร้าง และอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทั้งหมดได้รับการออกแบบภายในบริษัทเอง

โอกาสในตลาดเชิงพาณิชย์

แม้ Figure จะมุ่งเน้นที่ตลาดบ้าน แต่ Figure 03 ก็มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แอคทูเอเตอร์สามารถทำงานได้เร็วขึ้นถึง 2 เท่าด้วยความหนาแน่นของแรงบิดที่ดีขึ้น การปรับปรุงระบบมือและเซนเซอร์ที่ทำเพื่อ Helix ก็เป็นประโยชน์อย่างมากต่อกรณีการใช้งานเชิงพาณิชย์ ทำให้สามารถจับและวางสิ่งของได้เร็วขึ้น และนำทางอย่างชาญฉลาดในสภาพแวดล้อมทางการค้า

ลูกค้าเชิงพาณิชย์สามารถปรับแต่งหุ่นยนต์ด้วยชุดยูนิฟอร์มที่ทำจากวัสดุที่ทนทานหรือป้องกันการบาด รวมถึงการใช้หน้าจอแสดงผลด้านข้างแบบใหม่บน Figure 03 เพื่อระบุตัวตนในกลุ่มหุ่นยนต์ขนาดใหญ่และปรับแต่งให้เข้ากับแบรนด์ได้

Figure 03 แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในการเปลี่ยนหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากต้นแบบทดลองไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ปรับขนาดและใช้งานได้จริง Figure AI มีแผนจะเปิดให้พันธมิตรบางรายทดลองใช้งานจริงภายในปี 2025 และตั้งเป้าเปิดตัวเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบภายในปี 2026 (ซึ่งมีการคาดการณ์ราคาเบื้องต้นว่าอาจไม่เกิน 600,000 บาท) Figure AI เพิ่งระดมทุนรอบใหญ่กว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 36,800 ล้านบาท โดยมีมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.44 ล้านล้านบาท โดยมีผู้ลงทุนชั้นนำ เช่น Nvidia, Microsoft, OpenAI, Jeff Bezos และ Salesforce