โควิดลามสภาคองเกรสสหรัฐฯ สส.-สว. ติดเชื้อแล้ว 18 คน
วันนี้( 21 ก.ย.63) สำนักข่าวรอยเตอรส์รายงานว่า สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯอย่างน้อย 18 คนมีผลตรวจเชื้อโควิด 19 เป็นบวก หรือคาดว่าน่าจะติดเชื้อไปแล้ว แบ่งเป็นจากพรรครีพพับบลิกัน 9 คน และพรรคเดโมแครต 7 คน โดยรายล่าสุดคือ จาฮานา เฮเยส สส. พรรคเดโมแครต จากรัฐคอนเนคทิคัท ซึ่งติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
ส่วนคนอื่นๆที่มีผลตรวจเชื้อเป็นบวกไปก่อนหน้านี้ และเป็นนักการเมืองคนดัง คือ
สว. บิล คาสซิดี้ ของพรรครีพับบลิกันจากรัฐหลุยส์เซียนา เป็นนักฟิสิกส์และได้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน
สว. ทิม เคน ของรัฐเดโมแครตและมาจากรัฐเวอร์จิเนีย เคยลงสมัครเป็นตัวแทนพรรคชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปีที่แล้ว
สว. แรนด์ พอล จากรัฐเคนตั้กกี้ พรรครีพับบลิกัน ติดเชื้อตั้งแต่เดือนมีนาคมและหายดีแล้ว แต่เมื่อกลับไปทำงานที่สภาคองเกรส ปรากฎว่า ปฏิเสธการใส่หน้ากากอนามัย โดยให้เหตุผลว่า มีภูมิคุ้มกันแล้ว
ด้านนางแนนซี เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้สั่งให้ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยในห้องประชุมของสส. และจะให้เจ้าหน้าที่มาหิ้วตัวผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมืออกจากห้องประชุมรวมถึงจะไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยเข้าห้องประชุมด้วย
ขณะที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สหรัฐฯมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 มากสุดเป็นประวัติการณ์ในวันเดียว โดยมีการตรวจหาเชื้อถึง 1,061,411 ครั้ง อย่งไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สหรัฐฯจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อราว 6-10 ล้านครั้งต่อวัน หากต้องการควบคุมโรคระบาดให้ได้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สหรัฐฯมีการตรวจหาเชื้อระหว่าง 650,000-800,000 รายต่อวัน โดยในช่วงแรกของการระบาด สหรัฐฯยังเผชิญปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์การตรวจและผลการตรวจยังต้องล่าช้า รอถึงสองสัปดาห์จึงทำใหเความพยายามในการควบคุมการระบาดล่าช้าไปอีก
ต่อมาองค์การอาหารและยาสหรัฐฯหรือเอฟดีเอ ได้อนุมัติฉุกเฉินให้สามารถใช้การตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในน้ำลายแทน เพื่อความรวดเร็วและยังได้อนุมติ pooled testing หรือ การตรวจแบบรวมกลุ่มหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อขยายศักยภาพในการตรวจให้ได้มากขึ้น
อย่างไรก็ตามวิธีการแบบ pooled testing นั้นจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหากใช้ในบริเวณที่มีการระบาดอย่างจำกัด โดยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่า 27 จาก 50 รัฐ มีอัตราการติดเชื้อใหม่มากกว่า 5% เช่น รัฐเซาธ์ ดาโกตา มีอัตราเชื้อเป็นบวกถึง 17%
ตัวเลขดังกล่าวของสหรัฐฯถือว่าสูง เพราะองค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ว่า อัตราการติดเชื้อใหม่ที่มากกว่า 5% ถือเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวล
อย่างไรก็ตามสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมที่เกือบ 6.8 ล้านราย และเสียชีวิต 199,774 ราย หรือเกือบหนึ่งในห้าของยอดผู้เสียชีวิตเกือบหนึ่งล้านคนทั่วโลก
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ในสหรัฐฯตอนนี้มากกว่าจำนวนทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในสงครามเวียดนามและสงครามเกาหลีรวมกัน ถึง 2.5 เท่า
ดร. ทอม อินเกลสบี้ ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงสาธารณสุขของ Johns Hopkins Bloomberg School of Public Health ระบุว่า เป็นไปได้ว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯ จะพุ่งถึงสามแสนรายได้ หากประชาชนการ์ดตก แลเขาได้ตั้งคำถามให้คิดว่า ทำไมหลายๆประเทศที่พัฒนาน้อยกว่าสหรัฐฯทั้งในแง่เศรษฐกิจและสาธารณสุข มีอัตราการเสียชีวิตที่น้อยกว่า
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยใหม่ที่อ่านทำให้เกิดภาวะที่ไม่แน่นอนของการระบาด นั่นก็คือ สภาพอากาศที่หนาวเย็น ที่จะทำให้คนอยู่แต่ในที่ปิด แชร์อากาศเดียวกัน ซึ่งเป็นฤดูของโรคไข้หวัดอยู่แล้วและจะยิ่งทำให้ระบบสาธารณสุขตึงตัวมากขึ้น
อีกปัจจัยคือ การระบาดในช่วงเดือนแรกๆของอยู่ตามเมืองใหญ่และเมืองชายฝั่ง แต่ขณะนี้ โควิด-19 ได้แพร่ระบาดเข้าไปในพื้นที่ห่างไกล และพื้นที่ที่ก่อนหน้านี้มีการติดเชื้อน้อยแล้วรวมไปถึงรัฐทางตอนกลางของประเทศ ก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะที่รัฐนอร์ธ ดาโกตา ซึ่งเมื่อสัปดาหืที่แล้ว มีอัตราการติดเชื้อมากกว่ารัฐเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐขนาดใหญ่ นอกจากนี้ รัฐดังกล่าวยังมีประชากรเพียง 760,000 คน แต่มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 17,000 คนและ เสียชีวิต 190 รายแล้ว
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNTHAILAND.comfacebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE